ไมเกรน เกิดจาก อาการ และ วิธีการรักษา

         โรคไมเกรน เป็นโรคที่พบได้อยเป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดคีรษะแบบรุนแรง บางครั้งการปวดที่รุนแรงก็ทำให้ไม่สามารถทำงานต่อได้ ต้องหยุดทำงาน เวลาปวดอาจปวดแบบ ตุ๊บๆ ตามจังหวะซีพจรหรือปวดบีบๆ บางรายก็อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย หรือบางรายอาจเห็นเป็นแสงแว๊บๆที่เรียกว่า Aura ส่วนสาเหตุ นั้นยังไม่มีการขึ้ชัดว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ก็เชื่อว่าอาจจะสัมพันธุ์กับแสงหรอเสียง ที่มากระตุ้น
         อาการปวดไมเกรนเป็นโรคที่เป็นแล้วไม่หายขาดแต่ว่า สามารถป้องกันได้ ถ้าเรารู้เท่าทันส่วนเรื่องการใช้ยาในการรักษาเมื่อมี attack ขึ้นก็เป็นที่ยอมรับและก็ได้ผลดีแต่ที่สำคัญกว่าคือการรู้จักดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมเพราะอาจจะช่วยหยุดอาการได้เสียแต่เนินๆ เช่นนั้นแลัวเรามาดูกันดีกว่าว่า จะยับยังอาการปวดหัวไมเกรนได้อย่างไรบ้าง

สิ่งแวดล้อม
        พยามยามอยู่ในสิ่งแวดลัอมที่ไม่วุ่นวายหลีกเลี่ยงแสง และพาตัวเองไปอยู่ในมุมสงบ อาจจะเป็นห้องนอนก็ได้ และลองใช้อุณหภูมิร้อนหรือเย็นเช่นนำผ้าเย็นมาประคบที่คีรษะ และต้นคอเพราะความเย็นจะช่วยลดความไว ของปลายประสาทส่วนความร้อนจะช่วยคลายกล้ามเนือได้ หรืออาจนวดเบาๆบริเวณศีรษะและควรลดปริมาณเครืองดีมที่มีสารคาเฟอีน เพือช่วยบรรเทาอาการปวด

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เพราะการนอนไม่พออาจทำให้เกิดไมเกรนได้ อาจริมจากการสร้างวินัยให้กับตัวเองด้วยการนอนและตื่นให้เป็นเวลา หรือช่วงวลาก่อนเข้านอน ควรมีการผ่อนคลายเสียก่อน อาจเลือกฟังเพลงเบาๆ อาบน้ำอุ่นหรือ ดื่มนมอุ่นๆสักแก้ว จะช่วยทำให้หลับไดัง่ายขึ้น และควรงดเครื่องดื่มคาเฟอีนอาหารหนัก เพราะนั่นเป็นต้นเหตุของการนอนไม่หลับ แต่ถ้าทำยังไงก็นอนไม่หลับก็อย่าไปฝืนลองลุกขึ้นมาหาอะไรเบาๆทำพอ เมื่อความง่วงริ่มมาสะกิดเรียกก็นันแหละครับ..ไปที่เตียง

กินอยางฉลาด
แน่นอนว่า...อาหารก็มีส่วนที่จะทำให้เกิดอาการปวดหัวมเกรนได้ดังนั้นราจำเป็นต้องรู้ว่าควรกินอย่างไร
-ควรกินอาหารให้ตรงเวลาทกวัน
-อย่างดมื้ออาหารโดยเฉพาะอย่างยิงมื้อสำคัญที่สุด...มื้อเช้า
-หัดทำตัวเป็นคนช่างสังเกตและขี่สงสัยกับตัวเอง เพราะถ้าลองสังเกตดดีดีว่ากินอะไรแล้วทำให้มีอาการปวดหัว ก็ควรเลี่ยงซะเพราะอาหารบางชนิดอาจจะไปกระตุ้นให้มีอาการได้เช่น cheese avocado หรือลูกเกด

ความเครียด
เป็นเรื่องปกติ..คนทุกคนย่อมมีความเครียดแต่ถ้ารู้จักควบคุมและจัดการได้ก็ถือว่าไม่เครียดแลัวจะทำอยางไรถึงจะเรียกว่าจัดการได้...ตามนี้เลยครับ
พยายามทำชีวิตให้ง่ายขึ้น ถอยห่างจากความวุ่นวาย และเรืองยุ่งยากต่างๆเท่าที่ทำไดั
บริหารจัดการเวลาให้ดี เพียงแค่นี้ชีวิตของคุณก็จะง่ายขึ้น
พักผ่อนซะบ้าง ทุกสองสามชั่วโมงลองยืดคลายกล้ามเนี้ออย่างง่ายๆ หรือลุกขึ้นเดิน เปลี่ยนอีริยาบถบ้าง
รู้จักปล่อยวางเพราะเรื่องบางเรื่องเราไม่สามารถควบคุมมันได้ ทางธรรมว่าเป็นเรื่องของผล ได้แต่ยอมรับอย่างเดียว รักษาแต่เหตุในใจให้ดีไว้ แล้วชีวิตจะสงบสุข
อยู่กับลมหายใจ...ในวันหนื่งกลับมาสูดลมหายใจดูบ้าง หายใจเข้าออกมาๆช้าๆลึกๆจะช่วยคลายเครียดได้ดี เพราะขณะที่เครียดจะหายใจเร็วหรือกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
หา support จากคนใกล้ชิดอย่าลืมว่า เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือแฟน หรือคนในครอบครัวถือว่าเป็นที่ปรึกษาเป็นที่ระบายและคอยเป็นกำลังใจให้

กลุ่มยารักษาไมเกรน
เนี้อหาต่อจากนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ซื้อหายาหรืปรับยาใช้เองเพียง แต่เป็นข้อมูลสำหรับคนที่เป็นไมเกรนเท่านั้น เพราะยาแต่ละกลุ่มแต่ละตัวจะมีผลข้างเคียง และมีข้อดีข้อเสียแตกด่างกัน ซี่งปกติแลัวยาที่ใช้สำหรับโรคไมเกรน ไม่ไดัช่วยรักษาให้หายขาด แต่จะเป็นการช่วยลดอาการปวด และอีกกลุ่มก็จะเป็นยาที่ใช้ในการป้องกันการเกิดไมเกรน และการตอบสนองต่อยาแก้ปวดก็ไม่แนนอน เพราะบางคนให้แค่เพียง Paracetamol อาการก็ดีขึ้นแล้วแต่สำหรับบางคนต้องใช้ยาที่แรงขึ้นเช่นกลุ่ม NSAIDS อาทิ Ponstan-Ibruproten หรือ Naproxeกโดยยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์เพียงเพื่อลดอาการปวดทำนั้น

อาการของไมเกรน เกิดจากการขยายตัวของเส้นเลือดในสมองจึงมีการใช้ยาในกลุ่มที่ชื่อว่า Tnphans เพื่อช่วยในการหดตัวของเสันแลือดและ ช่วยลดกลไกในการเกิดวงจรทางเคมี ที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน ดังนั้นแนวทางนการรักษาไมเกรน จะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการปวดรุนแรงคือปวดทุกสัปดาห์ หรือยาไม่สามารถช่วยลดอาการปวดได้เลยซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มียาตัวใดที่ออกฤทธิ์โดยตรงในการป้องกัน การเกิดไมเกรนได้แต่ก็มียาหลายตัว ที่ออกฤทธิ์ชวยยับยังอาการได้บ้างเช่นยากลุ่ม amdepressan (ยาสำหรับภาวะซึมเศรัา) aniseizure (ยากันชัก)

ชนิดของกลุ่มยารักษาไมเกรน 
ประเภทแรกกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ใช้รักษาเมื่อเริ่มมีอาการ ควรเริ่มกินยาแต่เนิ่นๆ จะได้ผลดีกว่า
ประเภทที่สองคือกลุ่มที่ป้องกันการเกิดไมเกรน

ยาประเภทที่ช่วยในการรักษาอาการมีอยู่หลายกลุ่มได้แก่
กลุ่ม NSAIDS เป็นยาที่มีขายทั่วไปเพื่อลดอาการปวดไม่ว่าจะเป็น Ponstan, Naproxen, Brufen แต่กลุ่มนี้ด้องระวังเรืองการกัดกระเพาะ ฉะนั้นจึงควรกินหลังอาหารทันที ซึ่งบางคนไม่สามารถกินยากลุ่มนี้ได้เนื่องจากมีอาการแพ้
กลุ่ม Ergot alkaloid เช่น cafergot จะมีฤทธิ์ในการทำให้เส้นเลือดหดตัว constrict blood vessel แต่บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยากลุ่มนี้ได้
กลุ่ม Trptans ยากลุ่มนี้จะช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัวเช่นกันที่รู้จักกันดีคือ Zdmitriptan (Zomg) แต่เป็นยาที่ราคาแพงมาก แต่เป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพดีช่วยในการป้องกันการเป็นซ้ำได้ถือว่าได้ผลดีกว่ายากลุ่ม Ergot

           บางครังจะมีการใช้ยา antihistamine หรือยาแก้แพ้ร่วมด้วย ในขณะที่มีอาการปวดมากๆ
           ยาประเภทที่ช่วยในการป้องกัน ได้แก่ กลุ่มยาที่ลดความดัน ยากันช้ก ยาลดอาการซึมเศร้า อาจมีการนามาใช้ในการป้องกันการเกิดไมเกรนแต่ด้องมีการปรับยาโดยแพทย์ผู้เชียวชาญ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี เช่น propanold (Inderal) nortrptyline (Nortien) Senaline (Zoloft) หลายคนต้องกินยาพร้อมกันหลายชนิดและหลายคนที่กินยาแลัวอาการก็ยังไม่ดีขึ้น แม้กระทั่งหมอบางคนก็ยังต้องทนกับอาการปวดหัวแต่ก็มี บางคนรักษาอาการด้วยวิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองโดยการระมัดระวังเรื่องความเครียดและนั่งสมาธิได้ผลครับ..อาการปวดหัวดีขึนดังนั้นอย่าได้หวังพึ่งแต่ยานะครับเพราะสิ่งที่สำคัญมากๆคือพฤติกรรมของคุณเอง

credit Dr. Carebear