หน้าร้อน ที่ไม่ร้อน ทำอย่างไร ในบ้านเรา วิธีการรักษาสุขภาพ

หน้าร้อน ที่ไม่ร้อน ทำอย่างไร ในบ้านเรา วิธีการรักษาสุขภาพ

หน้าร้อน ที่ไม่ร้อน ทำอย่างไร ในบ้านเรา วิธีการรักษาสุขภาพ

เข้าหน้าร้อนทีไร ก็อดไม่ได้ที่จะมโนไปถึงภาพไอแดดสะท้อนวิบวับกับเหงื่อ เม็ดเป้งๆที่ผุดขึ้นตามใบหน้าและแผ่นหลังก่อนไหลรินเป็นสายจนเปียกแฉะใช่มั้ยค่ะสาวๆ อย่างนี้กระมังที่เขาเรียกว่าอาบเหงื่อต่างน้ำ ปกติอากาศบ้านเราก็ร้อนแทบเกือบจะทั้งปีอยู่แล้ว และเมษายนก็เป็นเดือนที่ร้อนมากที่สุด แต่ไม่ว่าอยู่ในสภาวะอากาศแบบไหนค่ะ ตัวเรา จะมีกลไกในการปรับตัวเพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล อาทิเช่น ในช่วงหนาวเหน็บ เส้นเลือดในร่างกายก็จะหดตัวเพื่อเก็บกักเลือดอุ่นๆ เอาไว้ ทำให้ภายในอบอุ่นค่ะ แต่ถ้าอากาศ ร้อนๆมากๆ เหงื่อเราจะแตกพลั่กๆ เส้นเลือดบริเวณผิวหนังก็จะขยายตัวเพื่อระบายความร้อนออกมา ผิวเราจึงแดงปลั่งนั่นเองค่ะ 
          ศาสตร์ทางการแพทย์ของเอเชียไม่ว่าจะเป็นการแพทย์แผนไทยบ้านเรา อายุรเวท หรือ การแพทย์แผนจีนแล้วต่างก็มีความเชื่อเดียวกันอย่างหนึ่ง ก็คือ ร่างกายของเราประกอบ ไปด้วยธาตุอย่างน้อย 4 ชนิด นั้นก็คือ น้ำ ลมดิน ไฟ อาการไม่สบายตัว หรือแม้แต่ ในโรคภัยบางชนิดที่เกิดขึ้นนั้น ก็มีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของธาตุในร่างกายเรา ดังนั้นในช่วง หน้าร้อนนี้ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่ร่างกายจะได้รับผลกระทบ อาทิเช่น ร้อนในร่างกายขาด น้ำ ถึงแม้ร่างกายจะมีกลไกปรับสมดุลก็ตาม แต่จะเป็นการดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าหากเราช่วยเหลือ ตัวเราเองให้อยู่ในภาวะที่สบายตัวที่สุดค่ะ อย่างเช่น 
          หลังจากเราตื่นนอนก่อนเริ่มต้นวันใหม่ ก็อย่าเพิ่งดื่มชากาแฟหรือน้ำผลไม้นะค่ะ ควรเริ่มด้วย น้ำเปล่าแก้วโตก่อนค่ะ ขอเป็นน้ำสะอาดอุณหภูมิปกติ ทั้งนี้ก็เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสีย  ไปในระหว่างการนอนหลับพักผ่อนในช่วงกลางคืนนั้นเองค่ะ และจะเป็นการดีเข้าไปอีกหากสามารถ พกพากระบอกน้ำติดตัวไม่ว่าจะในรถยนต์หรือที่โต๊ะทำงานเพื่อคอยจิบเรื่อยๆค่ะ
           ในแต่ละมื้ออาหารก็ควรมีผักและผลไม้รวมอยู่ด้วยค่ะเพราะว่าในผักผลไม้นอกจาก จะชุ่มด้วยน้ำแล้ว ยังมีแร่ธาตุที่ทำให้เราดูดซึมและนำสารอาหารไปใช้ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและขนมกรุบกรอบที่มีเกลือและสารปรุงแต่งเยอะเพราะนั่นจะ ทำให้กระหายน้ำยิ่งขึ้น 
          ดื่มน้ำเปล่านั้นดีที่สุดค่ะ ไม่เพียงแต่แก้กระหายได้ชะงัดเท่านั้น หากยังช่วยล้างพิษ ในร่างกายอีกด้วย โดยการช่วยตับและไตขับสิ่งที่เกินความจำเป็นออกไปนอกร่างกาย นอกจากนี้น้ำเปล่า ก็ยังทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะภายในเป็นไปอย่างราบรื่นค่ะ และก็ทำให้อุณหภูมิ ร่างกายคงที่อีกด้วยจ้า
          ในช่วงหน้าร้อน ความอยากอาหารมักจะลดลงค่ะ โดยเฉพาะในช่วงร้อนระอุที่สุด ของวัน ดังนั้น ก็พยายามรับประทานอาหารเช้าหรือเที่ยงก่อน 11 โมงนะค่ะ และอาหาร เย็นช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกค่ะ ว่ากันว่าช่วงดังกล่าวร้อนอบอ้าวน้อยกว่าและทำให้ เจริญอาหารมากกว่าจ้า 
          ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดร้อน และก็อาหารที่เพิ่มความร้อนแก่ร่างกาย อาทิเช่น เหล้า ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของมัน ของทอด เนื้อแดง รวมไปถึงเครื่องเทศต่างๆด้วยนะค่ะ เพราะมันอาจทำให้ร้อนในได้ ผลไม้บางอย่าง อาทิเช่น เงาะ ลำไย ทุเรียน ขนุน ที่มีฤทธิ์ร้อนค่ะ ถ้ากินแล้วควรตามด้วยผลไม้ฤทธิ์เย็นนะค่ะ อาทิเช่น แตงโม มังคุด ชมพู่ แอปเปิ้ล แตงไทย สาลี่ หรือผลไม้ที่มีน้ำเยอะ รสไม่หวานจัดนะค่ะ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยสร้าง ความสมดุลได้ค่ะ
          ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดช่วงระหว่าง 9 โมงเช้าถึง 3 โมงเย็นค่ะ แต่ถ้าหากจำเป็นต้อง โดนแดดช่วงนั้นก็ควรเตรียมพร้อมค่ะ โดยการสวมเสื้อผ้าหลวมๆ และเป็นผ้าที่ระบายถึงจะชอบออกกำลังกายหรือชอบกีฬากลางแจ้งแค่ไหน ก็อย่าระห่ำทำกิจกรรมกลางแดดเปรี้ยงๆช่วงเที่ยงวันนะค่ะ โดยเฉพาะกีฬาทางน้ำอย่างพวก ว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือโปโลน้ำ เพราะเวลาเสียเหงื่อมากๆแล้ว เราจะไม่รู้ตัว นั่นอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะ ขาดน้ำจนช็อกได้เลยค่ะ เลือกทำกิจกรรมช่วงเช้า หรือเย็นจะปลอดภัยกว่าจ้า 
          สำหรับคนที่เล่นโยคะเป็นประจำ (ขออภัยนะค่ะหากเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน) เขาบอกมาว่า ท่าที่จะทำให้เย็นทั้งกายและใจ นั้นได้แก่ ท่าอูฐ ท่าเรือ ท่าปลา ท่าหน้า ท่างู วัว และท่าต้นไม้ ทำควบคู่ไปกับการฝึกลมหายใจ และก็ทำสมาธิ จะทำให้จิตใจ ผ่อนคลายยิ่งขึ้นค่ะ
          ในช่วงหน้าร้อนนั้นมักกระหายน้ำบ่อยๆ แม้น้ำเปล่าจะตอบสนองร่างกายได้ดี ที่สุด แต่หลายคนก็ยังอยากได้อะไรที่เพิ่มรสชาติไปกว่าน้ำไร้รสใช่มั้ยค่ะ แต่จะให้เลือกน้ำ หวาน น้ำอัดลมก็ไม่ปรารถนา แต่ทางเลือกที่ลงตัวที่สุด ก็คือการรับประทานผัก ผลไม้ ในบางชนิดมีส่วนประกอบของน้ำสูงมาก ก็สามารถรับประทานแทนน้ำได้เลยแถมยังได้วิตามิน แร่ธาตุและสารอาหารอื่นๆ สูงอีกด้วยค่ะ ตัวอย่างของผักผลไม้ที่มี น้ำเยอะเหมาะจะรับประทานแก้กระหายได้ นั้นก็คือ แตงโม (มีน้ำ 91%) สตรอเบอร์รี่ (93%) ส้มโอ (92%) แคนตาลูป (93%) และสับปะรด (85%) ส่วนผักที่มีน้ำมาก อันดับหนึ่งได้แก่ แตงกวา (97%) เซเลอรี่ หรือขึ้นฉ่ายฝรั่ง (95%) ผักกาดแก้ว  (95%) มะเขือเทศ (94%) กะหล่ำปลี (91%) พริกหวาน (92%) และแครอท (86%) 
          ผักผลไม้ที่ชุ่มฉ่ำที่ไปด้วยน้ำที่กล่าวมาแล้วนั้น เหมาะอย่างยิ่งค่ะ ที่ควรตระเตรียมไว้เป็น Healthy Snack ขึ้นฉ่ายฝรั่ง แตงกวา แครอท หั่นเป็นแท่งๆ ใส่กล่องแช่เย็น ไว้หิว เมื่อไหร่ก็นำมาแทะเล่นก็เพลินดีค่ะ หรือจะเป็นผักอื่นๆ ก็นำมาผสมรวมเป็นสลัดผักก็อร่อย ไม่น้อยเลย นอกจากนั้นเป็นอาหารแก้คอแห้งแล้ว ก็ยังเป็นอาหารให้พลังงานหลังออก กำลังกายได้ดีอีกด้วยค่ะ ก็หวังว่าข้อแนะนำทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต ประจำวันของท่านท่ามกลางอากาศร้อนๆค่ะ
 
 
          Happy Summer Time ค่ะ


credit หนังสือ THE FIRST WEALTH IS HEALTH กินดีอยู่ดี  
 
ผู้เขียน วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์ ผู้ให้สาระ และ ความรู้ที่น่าสนใจ

COPYRIGHT©2024 SIAMPILL ALL RIGHTS RESERVED.