วิตามินบี 2 คืออะไร มีประโยชน์อะไร ความสำคัญ เมื่อขาด จะเป็นอย่างไร
วิตามิน B2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) ในอดีตเรียกว่า วิตามิน G ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบโฮเดรต ไขมัน และโปรตีนค่ะ ซึ่งจะช่วยในการเจริญเติบโต การสร้างผม เล็บ
ผิวหนัง ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และลดความรุนแรงของไมเกรนได้ค่ะ
วิตามิน
B2 พบในนม ถั่ว ปลา
ไข่ ผักใบเขียว
ธัญพืช มะเขือเทศ
เนื้อ ยีสต์ อับมอนด์
ตับ ร่างกายต้องการวันละ 1.9 มิลลิกรัมค่ะ
การขาดวิตามิน
B2 ทำให้เกิดแผลที่มุมปากทั้งสองข้างนั่นเองที่เรียกว่า ปากนกกระจอก Angular stomatitis ผิวจะไวต่อแสง ตาแพ้แสงแดด กลัวแสง ผิวรอบจมูก คิ้ว และหูลอก ตาแดงคัน เป็นผื่น น้ำตาไหล ขาบวม ระบบการทำงานของระบบประสาทผิดปกติ
ตัวเหลือง โลหิตจางทั้งจากการขาดธาตุเหล็กและเม็ดเลือดแดงจะผิดปกติ อ่อนเพลีย วิตามิน B2 ถูกแสงทำลายได้ ดังนั้นเด็กที่รักษาโรคด้วยการฉายแสงจะทำให้วิตามินถูกทำลายค่ะ จึงไม่มีไปทำลายสีของน้ำดี (Bilirubin) เด็กจึงมีภาวะตัวเหลืองได้ จึงใช้วิตามิน B2 ในการรักษา(Neonatal Jaundice with phototherapy)
ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานวิตามิน B2 (RDA) ในทารก 0.3-0.4 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ ส่วนเด็ก 0.6-0.9 มิลลิกรัมต่อวัน ในคุณผู้ชาย 1.3 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ และ สำหรับสตรีมีครรภ์ 1.4 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ และสตรีที่กำลังให้นมบุตร 1 มิลลิกรัมต่อวันจ้า
credit คู่มือ อาหารเสริม
ผู้เขียน ดร. เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์