น้ำ ความสำคัญที่มักถูกมองข้ามไป

น้ำ ความสำคัญที่มักถูกมองข้ามไป

น้ำ ความสำคัญที่มักถูกมองข้ามไป

องค์ประกอบของร่างกายมนุษย์แบ่งคร่าว ๆ เป็นของแข็ง 25% และของเหลว (น้ำ) ประมาณ 75% ขณะที่สมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 85% ร่างกายอยู่ได้โดยไม่มีอาหารนานเกือบ 2 เดือน แต่ถ้าขาดน้ำไม่กี่วันทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ข้อมูลเพียงแค่นี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าน้ำมีความสำคัญมากแค่ไหน แต่คุณอาจจะเริ่มสนใจหันมารักน้ำและอยากดื่มมันมากขึ้นเมื่อรู้ว่าน้ำมีเอี่ยวในกลไกต่าง ๆ มากมาย เช่น
  • จำเป็นในกระบวนการหายใจโดยน้ำสร้างความชุ่มชื้นต่อปอดเพื่อให้ปอดสามารถรับออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย
  • เป็นส่วนหนึ่งของปฏิกิริยาเคมีในระบบการย่อยและการสังเคราะห์พลังงานจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป
  • ลำเลียงสารอาหารและออกซิเจน (ผ่านเลือด) ไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย หากร่างกายรับน้ำไม่พอ อาจทำให้เกิดการสะสมพิษได้
  • ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย เช่น เมื่อเจออากาศร้อน ร่างกายจะลดอุณหภูมิผ่านเหงื่อ
  • ช่วยหล่อลื่นข้อต่อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
             เราถูกสอนมาแต่เล็กว่าควรดื่มน้ำเปล่าวันละ 6-8 แก้ว บางคนอาจสงสัยแล้วร่างกายต้องการน้ำปริมาณมากน้อยแค่ไหน คำตอบก็คือ  ร่างกายเสียน้ำไปเท่าไรก็ต้องการกลับคืนมาเท่านั้น โดยเฉลี่ยร่างกายขับน้ำประมาณวันละ 2.5 ลิตรผ่านปัสสาวะเป็นหลัก นอกนั้นก็ผ่านอุจจาระ เหงื่อ และการหายใจ ดังนั้น เราจึงควรดื่มน้ำให้มากพอที่จะชดเชยปริมาณน้ำที่สูญเสียไปในแต่ละวัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วน้ำที่เรารับเข้าร่างกายจะมาจากการดื่มซะ 80% ขณะที่ 20% เป็นน้ำที่ได้จากอาหาร
     การดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วอาจเป็นสูตรที่ใช้ไม่ได้กับทุกคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกินและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น ถ้ารับประทานผัก ผลไม้สดมากพอ และไม่ได้รับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือใช้เครื่องปรุงอะไรมากมาย คุณก็ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำราวกับอูฐ แต่ถ้าเป็นคนชอบอาหารรสจัด รับประทานก๋วยเตี๋ยวแต่ละชามสาดเครื่องปรุงเป็นช้อน ๆ หรือคนเป็นที่เหงื่อออกเยอะมาก อันนี้ก็คงต้องดื่มน้ำมากหน่อย อีกอย่างหนึ่งที่นำมาเป็นข้อสังเกตได้คือ สีจองปัสสาวะ ถ้าสีเข้มข้นราวน้ำชาละก็ เป็นไปได้ที่ร่างกายจะอยู่ในภาวะขาดน้ำแต่มาตรวัดนี้ก็ใช้ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอาหารบางอย่างและวิตามินเสริมที่รับประทานเข้าไปก็ส่งผลต่อสีของปัสสาวะได้เช่นกัน
             เอาเป็นว่าถ้ารู้สึกหิวน้ำเมื่อไรก็ให้ดื่มเมื่อนั้น (เน้นว่าน้ำเปล่าที่สะอาด ๆ นะคะ เป็นช้อยที่ควรเลือกที่สุด) แต่ก็ใช่ว่าไม่รู้สึกหิวน้ำแล้วร่างกายจะไม่ต้องการน้ำนะคะ ทางที่ดีที่สุด คือ พกกระบอกน้ำติดตัว คอยจิบอยู่เรื่อย ๆ ข้อพึงระวังคืออย่าดื่มน้ำปริมาณมาก ๆ ในคราวเดียว การดื่มน้ำครั้งละเยอะ ๆ แบบเกินความจำเป็นนอกจากไม่ส่งผลดี ยังอาจทำให้เกิดอันตรายได้ คงจำกันได้เมื่อหลายปีก่อน สถานีวิทยุแห่งหนึ่งในอเมริกาจัดแข่งขัน ใครดื่มน้ำได้มากสุดได้เครื่องเล่นเกม ผู้ชนะในครั้งนั้นคือ คุณแม่ลูกสามวัย 28 ปีที่อยากได้เครื่องเล่นเกมให้ลูกเธอลงทุนกรอกน้ำเข้าปากตัวเองมากถึง 2 แกลลอน ผลคือ ร่างกายเกิดอาการช็อกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
             เหตุการณ์คล้ายกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยในงานรับน้องใหม่แบบพิเรนทร์เมื่อรุ่นพี่บังคับน้องให้ดื่มน้ำปริมาณมาก ผลคือ รุ่นน้องคนหนึ่งช็อกและเสียชีวิตการดื่มน้ำมากเกินไปทำให้ หนึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณของเหลวในร่างกาย และนั่นก็ส่งผลให้หัวใจทำงานหนักในการสูบฉีดเลือดที่มีปริมาณมากขึ้น และ สอง ไตทำงานหนักขึ้นในการกรองน้ำที่เกินมาและขับมันออกจากระบบการไหลเวียนของเลือด เมื่อไตรับไม่ไหวจึงเกิดอาการไตวายขึ้น
             ถ้าให้เลือกระหว่างน้ำอุ่นกับน้ำเย็น เกือบร้อยละร้อยคงสมัครใจเลือกน้ำเย็น เหตุเพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน การได้ดื่มน้ำเย็น ๆ มันดับกระหาย สร้างความสดชื่นได้ดีนักแล แต่ถ้าเป็นศาสตร์ด้านอายุรเวชแบบอินเดียโบราณละก็ น้ำเย็นเป็นของที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะเมื่อดื่มเข้าไป ร่างกายต้องมาคอยปรับอุณหภูมิของน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิร่างกายซึ่งเป็นการกระทบต่อระบบการรักษาสมดุลของร่างกาย หากเป็นไปได้ดื่มน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่นจะดีที่สุด หลักอายุรเวชอินเดียระบุประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่นได้แก่
  • ช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร
  • การดื่มน้ำอุ่นช่วยบำบัดอาการหวัด ไอ เจ็บคอ หอบหืด การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
  • ดื่มน้ำอุ่นเป็นประจำ ห่างไกลโรคหวัด
  • น้ำอุ่นช่วยชำระล้างกระเพาะปัสสาวะได้เป็นอย่างดี
  • หลังรับประทานอาหารทอด อาหารมัน การดื่มน้ำอุ่นตามจะทำให้ท้องเบาสบาย มันยังทำให้ไขมันไม่ถูกดูดซึมมากเกินไปด้วย
  • การดื่มน้ำอุ่นตอนกลางคืนช่วยลดอาการไข้ได้
  • ผู้ป่วยไขข้ออักเสบควรดื่มน้ำอุ่นและหลีกเลี่ยงน้ำเย็นเพื่อลดอาการกำเริบของโรค
 
             ด้านการแพทย์แผนจีนโบราณก็มีข้อแนะนำเกี่ยวกับน้ำเช่นกันนั่นคือ น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว สารอาหารในมะนาวหาได้มีแต่วิตามินซีไม่ แต่ยังประกอบด้วยแมกนีเซียมโพแทสเซียม และแคลเซียมอีกด้วย ดื่มเป็นประจำจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานราบรื่น กระตุ้นการทำงานของลำไส้ นอกจากนั้น ยังช่วยให้ตับผลิตน้ำดีได้ดีขึ้น อันน้ำดีนี้สำคัญต่อการย่อยไขมัน ทำให้การดูดซึมหรือขับไขมันเป็นไปง่ายขึ้น การดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวยังเป็นการล้างพิษในร่างกายอย่างหนึ่ง และผลพวงที่ตามมาคือ ทำให้สุขภาพผิวดีไปด้วย


credit หนังสือ THE FIRST WEALTH IS HEALTH กินดีอยู่ดี  
 
ผู้เขียน วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์ ผู้ให้สาระ และ ความรู้ที่น่าสนใจ

COPYRIGHT©2024 SIAMPILL ALL RIGHTS RESERVED.