8 สุดยอด อาหารบำรุงตับ
ใครที่เป็นสายดื่ม สายเมา คงต้องรีบมาอ่านบทความนี้กันแบบด่วนๆ เลยครับ เพราะในวันนี้ผมได้รวบรวมอาหาร 8 ชนิด ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของอาหารที่สามารถบำรุงตับได้เป็นอย่างดีมาฝาก เพราะหลายๆ คนเผลอทำร้ายตับมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องโดยที่ไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานยาจนทำให้เกิดสารตกค้างภายในร่างกาย การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ฯลฯ ซึ่งผมก็คิดว่ามันก็คงถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องหันกลับมาดูแลรักษาตับกันแบบจริงๆ จังๆ กันสักที
เพราะจากข้อมูลที่ผมไปเสาะหามานั้น คนไทยเสียชีวิตจากไขมันพอกตับ มะเร็งตับ ตับอักเสบ ตับแข็งเยอะเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ ทำได้ผมเกิดไอเดียในการเสาะหาข้อมูล 8 อาหารบำรุงตับมาฝากท่านกัน และบอกได้เลยครับว่าอาหารแต่ละชนิดที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนั้น หาง่าย! แถมได้ประโยชน์ต่อร่างกายแบบเต็มๆ ดังนั้นไม่รอช้าไปดูกันดีกว่าว่า
8 สุดยอดอาหารบำรุงตับนั้นจะมีอะไรบ้าง?
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 1
เริ่มกันที่อาหารชนิดแรกเลยครับ นั่นก็คือ “กาแฟ” ซึ่งจาก
ผลการวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำนั้นสามารถช่วยทำให้การทำงานของตับมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้วนะครับ
เพราะนั่นอาจจะทำให้ร่างกายของคุณได้รับคาเฟอีนที่มากเกินไปและที่สำคัญต้องเป็นกาแฟดำ ที่ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใช้ครีมเทียมหรือของปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น
ตับของท่านจึงจะได้รับประโยชน์จากการดื่มกาแฟแบบเต็มๆ อีกทั้งภายในกาแฟดำยังเต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ส่งผลให้ผู้ที่มีปัญหาตับอักเสบมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
แต่อาจจะต้องขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนว่าในกรณีของท่านสามารถดื่มกาแฟได้หรือเปล่า?
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 2
อาหารบำรุงตับชนิดที่ 2 ก็คือ “ชา” นั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นชาดำ ชาจีน หรือว่าชาเขียวก็ถือว่าโอเคสามารถใช้ได้ดีทุกชนิด เพียงแต่ผมไม่ค่อยแนะนำให้ดื่มชาที่ผสมนมหรือน้ำตาลลงไปเท่าไรครับ เพราะถ้าเริ่มผสมของปรุงแต่งพวกนี้เมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีไขมันสูงทันที คุณสมบัติที่จะไปรักษาตับก็ลดน้อยลงไปอย่างน่าเสียดาย ฉะนั้นผมแนะนำเป็นพวก
ชาเขียว ชาดำ ชาจีน ที่ไม่ได้ผสมอะไรเลยจะดีกว่า เพราะมีผลการวิจัยบอกว่าการดื่มชาเป็นประจำ จะทำให้ผลเลือดของตับดูดีขึ้น การทำลายของตับน้อยลงโดยเฉพาะชาดำและชาเขียว ซึ่งการดื่มชาที่ถูกต้องควรดื่มวันละ 1-2 แก้วก็พอครับ อย่าหักโหมมาก ถึงขนาดดื่มกาแฟแก้วชาแก้วรวมกันวันหนึ่ง 5 แก้ว 10 แก้ว เพื่อหวังให้ตับฟื้นตัวเร็วๆ เพราะนั่นมันอาจจะทำให้สุขภาพของท่านพังเร็วขึ้นต่างหาก
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 3
อาหารที่จะบำรุงตับของท่านให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดชนิดที่ 3 นั่นก็ คือ “พืชตระกูลเบอร์รี” เช่น บลูเบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี เป็นต้น ซึ่งกลุ่มพืชพวกนี้ก็มีความดีหลากหลายอย่าง
ไม่ใช่แค่บำรุงตับอย่างเดียวนะครับ แต่ยังบำรุงสายตา บำรุงสมอง แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากอีกด้วย ส่งผลให้การเสื่อมสภาพของเชลล์ภายในตับนั้นลดลง
โดยมีผลการวิจัยออกมาว่า นอกจากพืชตระกูลเบอร์รี จะช่วยฟื้นฟูตับแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอีกด้วยทั้งอร่อย ทั้งมีประโยชน์แบบสุดๆ เลยครับ
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 4
จากการวิจัยพบว่าองุ่นหรือเมล็ดองุ่นที่สกัดออกมาเป็นเม็ด (ในรูปแบบยาหรืออาหารเสริม) จะช่วยทำให้ตับ มีการทำงานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใน 3 เรื่องหลักๆ คือ....
1. ช่วยป้องกันการเสื่อมสลายของเซลล์ภายในตับ
2. เพิ่มสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ส่งผลให้อัตราเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งตับลดลง
3. ผู้ที่มีอาการตับอักเสบหรือไขมันพอกตับจะมีอาการทุเลาเบาบางลง
เรียกได้ว่าคุณประโยชน์ขององุ่นมันช่างเหลือล้นซะจริงๆ แต่ถ้าท่านคิดว่าจะไปนั่งรับประทานองุ่นที่เป็นผลสดๆ อาจจะต้องระวังเรื่องน้ำตาลกันสักนิดหนึ่งด้วยนะครับ ซึ่งถ้าให้ผมแนะนำการรับประทานองุ่นสกัดอัดเม็ดน่าจะง่ายกว่าและท่านก็จะได้ไม่ต้องมากังวลในเรื่องของค่าน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 5
อาหารที่จะช่วยทำให้ตับของท่านกลับมาแข็งแรงชนิดที่ 5 คือ เป็น “ผักบรอกโคลี” ซึ่งผักบรอกโคลีมีประโยชน์มากมายหลากหลายด้านเลยทีเดียวครับ โดยในผักบรอกโคลีนั้นจะมีเอนไซม์ที่กำจัดพิษในร่างกาย ทำให้เซลล์ภายในตับของท่านนั้นแข็งแรงขึ้น ลดการถูกทำลายไปโดยใช่เหตุ
อีกทั้งการรับประทานบรอกโคลีเป็นประจำจะส่งผลให้ผลเลือดของท่านดูดีขึ้นจนแพทย์ตกใจ และการขับถ่ายก็จะดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยการหาซื้อผักบรอกโคลี ก็ง่ายแสนง่ายครับ ไปตลาดสดที่ไหน ก็ต้องเจอเป็นทุกครั้ง มันจึงกลายเป็นผักขวัญใจของผมชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 6
บรอกโคลีว่าหาง่ายแล้ว อาหารชนิดที่ 6 นั้นหาง่ายกว่า นั่นก็คือ “ถั่ว” ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งอาหารในกลุ่มประเภทนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารประเภทไขมันชั้นดีที่ร่างกายต้องการ และถ้าท่านรับประทานถั่วซึ่งเป็นไขมันดีเข้าไป
ถั่วจะเข้าไปลดความเสี่ยงในการเกิด โรคหัวใจ เอนไซม์ตับดีขึ้น ตัวตับโดนทำลายน้อยลง ผู้ใดที่เป็นไขมันพอกตับอาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นจน เรียกได้ว่าแทบจะหายเป็นปกติ ดังนั้นแล้วถั่วจึงกลายมาเป็น อาหารที่ช่วยดูแลและฟื้นฟูตับได้เป็นอย่างดี ที่ท่านควรจะหามารับประทานหากต้องการดูแลตับให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 7
มาต่อกันที่อาหารชนิดที่ 7 นั่นก็คือ... ปลาที่มีไขมันมากๆ อ่ะ อ่ะ อ่ะท่านอย่าเพิ่งงงว่าไขมันมากแล้วจะดีอย่างไร? ซึ่งไขมันมากในความหมายของผม คือไขมันดีเป็นจำนวนมาก และปลาที่มีไขมันประเภทนี้ก็คงจะเป็นปลาชนิดไหนไปไม่ได้นอกเลยจากปลาแซลมอนและปลาทูน่านั่นเองครับ โดยภายในเนื้อปลาจะมี สารชื่อว่า “โอเมก้า 3” ที่จะเข้ามาช่วยให้ร่างกายของท่านมีสุขภาพแข็งแรงลดการอักเสบในส่วนต่างๆ ของร่างกาย
อัตราการเกิดโรคหัวใจลดน้อยลง และข้อสำคัญคือทำให้ค่าเอนไซม์ของตับในผลเลือดดีขึ้นด้วยครับ
แต่ก็อย่าเผลอรับประทานปลาที่มีไขมันดีเยอะจนเกินไป เพราะมันอาจจะส่งผลต่อเรื่องน้ำหนักของท่านได้เช่นกันครับ
อาหารบำรุงตับ ชนิดที่ 8
และแล้วก็มาถึงอาหารบำรุงตับชนิดสุดท้ายนั่นก็คือ น้ำมันมะกอกนั่นเอง โดยน้ำมันมะกอกถือว่าเป็นน้ำมันชนิดดีที่ร่างกายต้องการ ซึ่งถ้าท่านรับประทานน้ำมันมะกอกเป็นประจำ จะส่งผลให้ไขมันที่พอกตับอยู่นั้นลดลง การทำงานของอินซูลินในร่างกายจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น อัตราการเสี่ยงเป็นโรคหัวใจก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งผลเลือดของตับก็จะดีขึ้นอีกด้วย เห็นไหมล่ะครับว่าน้ำมันมะกอกมีประโยชน์มากมายแค่ไหน และการรับประทานนั้นก็แสนจะง่ายดาย
เพียงแค่ท่านรับประทานน้ำมันมะกอกวันละ 1-2 ช้อนชา ก็เป็นเสร็จเรียบร้อย หรือถ้าใครไม่อยากจะรับประทานน้ำมันมะกอกแบบดิบๆ ก็สามารถใช้น้ำมันมะกอกเป็นน้ำสลัดแทนได้ เพียงแค่นี้ร่างกายและตับของท่านก็จะได้รับ สารอาหารที่เป็นประโยชน์จากน้ำมันมะกอกแบบเต็มๆ แล้วล่ะครับ
อาหารทั้ง 8 ชนิดที่ผมกล่าวไปนั้น ล้วนแล้วแต่จะช่วยให้ตับของท่านได้กลับมามีสุขภาพที่ แข็งแรงอีกครั้ง!
ข้อสำคัญคือท่านอย่าเผลอไปทำร้ายตับอีก เพราะในครั้งหน้าการรับประทานอาหารทั้ง 8 ชนิดที่ผมกล่าวข้างต้นอาจจะไม่สามารถกอบกู้หรือฟื้นฟูให้ตับของท่านกลับมาแข็งแรงได้ ฉะนั้นท่านต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าอวัยวะทุกส่วนภายในร่างกายไม่มีอะไหล่เปลี่ยนใหม่เหมือนกับอะไหล่รถยนต์ หมั่นดูแลรักษาให้ดี อย่าให้มีสิ่ง แปลกปลอมเข้าไปทำร้ายหรือทำลายตับของท่านอีกนะครับ
credit อายุ 100 ปี ง่ายแค่นี้เอง!
นพ. นันทพล พงศ์รัตนามาน