คุณรู้หรือไม่ ทำไมโตขึ้นแล้วเราต้องหยุดกิน นม มีอะไรใน นม

  
            ประโยชน์ของนมโดยทั่วไป คือ เป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียม แต่ก็มีข้อเสียคือบางคนก็มีอาการแพ้น้ำตาลหรือโปรตีนในนม เป็นสาเหตุให้เกิดอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว เช่น ท้องอืด ท้องร่วง อาเจียน เป็นต้น การแพ้นมวัวเช่นนี้เรียกว่า Lactose Intolerance โดยปกติในเด็กแรกเกิดร่างกายจะสร้างเอนไซม์ที่สามารถย่อยน้ำตาลแล็กโทสในนม หลัง 6 ขวบไปแล้ว หากเด็กหยุดดื่มนม ร่างกายก็จะหยุดสร้างเอนไซม์ ทำให้เกิดอาการต่อต้านนม ผู้ใหญ่หรือคนรุ่นเก่าจำนวนมากก็จะมีอาการแบบนี้เพราะวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน นมไม่ใช่ส่วนประกอบของอาหารในชีวิตประจำวัน เพิ่งจะมาหลังๆ นี่เองที่นมเข้ามามีบทบาทมากขึ้นแต่ "นม" ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นมวัว ยังมีนมอีกมากมายหลายชนิดให้เลือกดื่มตามความเหมาะสม มาดูกันว่านมแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

•     วางจำหน่ายทั่วไป มีทั้งแบบนมธรรมดาที่ให้ไขมัน และแคลอรีสูงจึงเหมาะกับเด็กวัยเติบโตและคนที่ต้องการพลังงาน ส่วนคนที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูง คนชราที่ไม่ได้ต้องการพลังงานมากมายอะไร และเด็กที่ครอบครัวมีประวัติโรคอ้วน สามารถเลี่ยงมาดื่มนมพร่องไขมันจะดีกว่า ทั้งนมวัวธรรมดาและพร่องไขมันมีปริมาณแคลเซียมไม่ต่างกันนัก แต่ไขมันและแคลอรีจะมากน้อยกว่ากันเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
•     ไม่ค่อยแพร่หลาย จึงทำให้มีราคาสูงกว่านมวัว คุณค่าทางโภชนาการว่ากันว่าเยอะกว่านมวัว แต่คนที่แพ้นมวัวก็ไม่น่าจะดื่มนมความได้ เพราะในนมควายก็มีน้ำตาลแล็กโทส และโปรตีนเคซีนที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน
•      เหมือนนมควายคือไม่แพร่หลายและราคาสูง มีแคลเซียมและแร่ธาตุต่างๆ สูงกว่านมวัว เป็นทางเลือกของทารกที่แพ้นมวัวเนื่องจากขนาดไขมันเล็กกว่าจึงทำให้ย่อยง่ายและร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้เร็วกว่า นักวิจัยระบุคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงนมแม่เลยทีเดียว
•      เป็นนมที่นำมาหมักกับจุลินทรีย์แล็กโตบาซิลลัส ทำให้เกิดกรดแล็กติก มีโภชนาการดีกว่านมสด ร่างกายดูดซึมโปรตีนไปใช้ได้ดีกว่า แถมยังมีแบคทีเรีย ที่ช่วยย่อยน้ำตาลแล็กโทสให้แล้ว นมเปรี้ยว (รวมถึงโยเกิร์ต) เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่แพ้นมวัวเพราะย่อยง่ายกว่าในนมเปรี้ยวยังมีพรีไบโอติกหรือจุลินทรีย์ดีที่ช่วยต้านเชื้อโรคในลำไส้ และทำให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายดีขึ้นอีกด้วย

นอกจากน้ำนมที่ได้จากสัตว์แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์จากพืชที่เราเรียก "นม" เช่นกัน อาทิ

•     เราคุ้นเคยกับนมชนิดนี้กันดี นมถั่วเหลืองให้โปรตีนใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ และยังอุดมด้วยวิตามินเอ และวิตามินบี 1  ทั้งยังเป็นนมที่มีไขมันต่ำอย่างไรก็ตาม ปริมาณแคลเซียมจะต่ำกว่านมวัว เหมาะที่จะเป็นเครื่องดื่มในยามว่าง แต่สำหรับคนที่จะนำมาใช้เลี้ยงทารกที่แพ้นมวัว ควรระมัดระวังและต้องเสริมวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี 12 จากแหล่งอื่นชดเชย
•      เหมาะสำหรับผู้แพ้นมวัว นมข้าวมีไขมันต่ำ แต่ให้คาร์โบไฮเดรตสูงกว่านมวัว คุณค่าทางอาหารก็ดีระดับหนึ่ง เป็นเครื่องดื่มยามว่างเช่นกัน
•    แหล่งวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 วิตามินอี วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ทั้งยังมีสารโพลีนช่วยเรื่องความจำ และกรดเฟรูลิกช่วยต้านความชรา จัดเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้อีกอย่างหนึ่ง
•   และนมข้าวโอ๊ต บ้านเราอาจจะไม่ค่อยพบเห็นแต่ในต่างประเทศเป็นที่นิยมพอสมควร วางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ต เจาะกลุ่มลูกค้าที่แพ้นมวัว ลูกค้ามังสวิรัติ และลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ คุณสมบัติหลักๆ ก็เหมือนนมจากพืชทั่วไปคือไขมันต่ำ วิตามินและแร่ธาตุสูง แต่ก็มีข้อด้อยคือแคลเซียมและโปรตีนน้อยกว่านมจากสัตว์

 
            น้ำนมทุกประเภทมีทั้งข้อดี ข้อด้อย นมจากสัตว์ไขมันอาจจะสูง แต่ก็ให้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน ขณะที่นมจากพืชอาจจะไขมันต่ำ แต่เรื่องคุณค่าทางโภชนาการแน่นอนว่าเป็นรอง ทั้งแคลเซียมและโปรตีนที่ต่ำกว่า และอย่าลืมว่าในพืชทุกชนิดไม่มีวิตามินบี 12 ซึ่งสำคัญต่อการบำรุงประสาทและป้องกันภาวะโลหิตจาง ดังนั้น จึงควรเลือกนมที่ให้ความสมดุลแก่ร่างกาย อ่านฉลากก่อนบริโภคทุกครั้งว่าผู้ผลิตผสมอะไรลงไปบ้าง ควรเลือกนมรสจืดหรือน้ำตาลต่ำเพื่อป้องกันภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ทั้งยังให้ประโยชน์ทางโภชนาการสูงกว่านมที่แต่งรส/กลิ่นและสี ไม่ว่าจะเลือกนมอะไร ขอให้พึงระลึกถึงทางสายกลาง น้อยไปไม่ดีมากไปอาจเป็นโทษ ดื่มนมยังไงก็ดีกว่าดื่มน้ำหวานหรือน้ำเมาอยู่แล้วละ


credit หนังสือ THE FIRST WEALTH IS HEALTH กินดีอยู่ดี  
 
ผู้เขียน วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์ ผู้ให้สาระ และ ความรู้ที่น่าสนใจ