"ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม"ดีต่อเด็กอย่างไร ?

"ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม"ดีต่อเด็กอย่างไร ?


เด็กกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
                ปัญหาโภชนาการที่พบบ่อยในเด็ก และเป็นปัญหาที่ทำให้คุณพ่อ คุณแม่กังวลใจก็คือ เด็กไม่ค่อยรับประทานอาหารหรือรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย พัฒนาการของสมอง และภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างจากงานวิจัยพบว่าอาหารเด็กมักจะมีผักและผลไม้น้อย ทำให้เด็กขาดวิตามินซี เป็นต้น
                เป็นเรื่องยากที่ตัวเด็กเองจะทราบว่าอาหารใดมีประโยชน์ และเลือกรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ แม้ว่าเด็กจะได้เรียนรู้จากคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูว่าสิ่งใดมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ครอบคลุมทั้งหมด เด็กอาจจะทราบเพียงว่ามะเขือเทศช่วยให้ผิวสวย ผักบุ้งบำรุงสายตาแต่นั่นก็ยังน้อยเกินไป อีกทั้งร่างกายของเด็กยังย่อยและดูดซึมอาหารได้ไม่ดีพอและรับประทานได้ไม่มากอีกด้วย รวมถึงพฤติกรรมของเด็กก็ก่อให้เกิดภาวะทุพโภชนาการได้ ภาวะทุพโภชนาการไม่ใช่ภาวะที่ขาดสารอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงภาวะที่ได้รับสารอาหารบางอย่างมากเกินไป เช่น ไขมัน แป้ง น้ำตาล ทำให้เด็กอ้วนไขมันสูง ร่างกายไม่แข็งแรง ซึ่งภาวะทุพโภชนาการเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กและการดูแลของผู้ปกครอง เด็กบางคนห่วงเล่นหรือติดดูโทรทัศน์จนไม่รับประทานอาหาร เลือกอาหาร ไม่รับประทานผัก เบื่ออาหาร หรือเด็กบางคนก็ดื่มแต่น้ำหวาน รับประทานแต่ขนมกรุบกรอบ จนไม่รับประทานข้าว
               ด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตอาหารเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้มีคุณค่ามากขึ้น โดยเฉพาะในนมซึ่งเป็นอาหารที่เด็กส่วนใหญ่บริโภคเป็นหลักจะเห็นได้ในโฆษณาหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์บ่อย ๆ เช่น นมผงเสริม DHA นมผงเสริมพรีไบโอติกส์ ยิ่งเสริมมากราคาก็ยิ่งสูงมาก นมที่ไม่เสริมอะไรเลย จะใส่ในกล่องสีขาว ๆ ราคาราว 300 บาท ส่วนนมที่เสริมคุณค่าต่าง ๆ จะใส่ในกล่องสีทอง ราคากล่องละพันกว่าบาท นอกจากนี้ยังมีวิตามินรวมสำหรับเด็ก ในรูปแบบที่ดึงดูดใจคล้ายเยลลี่หรือน้ำเชื่อมรสผลไม้ น้ำมันตับปลา แคลเซียม โปรตีน และอีกมากมาย ดังนั้นพ่อแม่และผู้ปกครองควรมีวิธีเลือกผลิตภัณฑ์
เสริมอาหารที่มีประโยชน์และปลอดภัยให้กับเด็ก
               สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือเด็กควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากอาหารหลัก ซึ่งเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องจัดหาให้ และพ่อแม่ยังต้องดึงดูดให้เด็กรับประทานอาหารนั้นด้วย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเด็กส่วนใหญไม่ค่อยยินยอมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่พ่อแม่จัดให้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ แต่ปัญหานี้จะหมดไปโดยให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรม ผู้เขียนเคยเห็นโรงเรียนเด็กเล็กในประเทศอังกฤษจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมใภชนาการ โดยเชิญพ่อแม่มาทำอาหารที่โรงเรียน และเรียนรู้วิธีที่จะทำให้เด็กรับประทานผักผลไม้อย่างเต็มใจ ก่อนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม พ่อแม่หลายคนทำอาหารไม่เป็นหรือทำอาหารไม่ดึงดูดใจเด็ก และขาดการให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำอาหาร ก็เลยทำให้เด็กได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ขั้นแรก ทางโรงเรียนจะให้เด็กมีส่วนร่วมในการปลูกผักและเก็บผักที่ปลูก ซึ่งในวันแรกเด็กจะได้ปลูกผักโดยการเพาะเมล็ดหรือนำหัวของผักไปฝังดิน พร้อมกับได้รับคำอธิบายจากคุณครูว่าผักนั้นเติบโตได้อย่างไร แล้วให้เด็กช่วยเก็บผักอีกต้นที่โตพร้อมแล้ว จากนั้นให้เด็กได้มีส่วนร่วมทำอาหารด้วย เช่น ล้างผัก เด็ดใบผัก คลุกเคล้าส่วนผสม ปรุงรส ตกแต่งอาหารในจานให้เป็นตัวการ์ตูนซึ่งอาหารในจานก็จะมีผักต่างๆ เช่น แครอทลวก มันฝรั่งบด เมล็ดถั่วลันเตาต้ม ขนมปัง เพื่อฝึกให้เด็กได้ใช้จินตนาการ และท้ายสุดเด็กก็จะได้รับประทานอาหารที่ตนเองได้ลงมือทำ

                อย่างไรก็ตามอาจจะเสริมอาหารด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็กได้ เช่น วิตามินบีรวมซึ่งเหมาะสำหรับเด็กที่เบื่ออาหาร เพราะวิตามินบีรวมจะช่วยกระตุ้นให้อยากอาหาร แต่ต้องอ่านวิธีใช้จากฉลากให้เข้าใจ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร


credit ดร.เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์ซีลีเนียม
 

COPYRIGHT©2024 SIAMPILL ALL RIGHTS RESERVED.