ความรู้ที่ผิดๆ เกี่ยวกับโรคหวัด แล้วแบบที่ถูกคืออะไร
รู้เท่าเอาไว้กัน รู้ทันเอาไว้แก้
ค่ะ
อากาศเปลี่ยนทีไร ไข้หวัดมาเยือนทุกทีเลย ยิ่งช่วงนี้หนาวๆ ร้อนๆ ความจริงการเป็นหวัไม่ใช่สิ่งเลวร้าย คุณหมอท่านหนึ่งได้อธิบายว่า ที่เราเป็นหวัดเนื่องจากติดเชื้อไวรัส
ค่ะ และไวรัสมักเลือกโจมตีเซลล์ที่อ่อนแอในร่างกาย
ค่ะ ดังนั้น การเป็นหวัดปีละครั้งสองครั้งจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ผลัดเซลล์อ่อนแอทิ้ง
ค่ะ และสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาทดแทน
ค่ะ เวลาเป็นหวัดนั้น หากร่างกายแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันพอ อาการต่าง ๆ
ค่ะ อาทิเช่น คัดจมูก ไข้ต่ำ
น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอจะหายเองโดยไม่ต้องรับประทานยาค่ะ อาจจะหนึ่งสัปดาห์หรือสองสัปดาห์แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละคน
ค่ะ แต่ถ้ามีไข้สูงหนาวสั่น อ่อนเพลีย และปวดเมื่อยตามร่างกายละก็ ควรพึงระวังว่านั่นไม่ใช่หวัดธรรมดาแต่อาจเป็นไข้หวัดใหญ่
ค่ะ
ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ควรพบแพทย์
ค่ะ แต่หวัดธรรมดา สามารถบำบัดได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
ค่ะ วีธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นหวัดก็คือ เริ่มที่การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
ค่ะ โดยการพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารดีมีประโยชน์
ค่ะ อาหารที่แนะนำ ได้แก่ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
ค่ะ วิตามินซีทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงและช่วยทำให้หายจากหวัดเร็วขึ้น
ค่ะ พบในผลไม้รสเปรี้ยว ส้ม ส้มโอ มะนาว และผลไม้ตระกูลเบอรี่
ค่ะ รวมถึงผลไม้ทั่วไป เช่น แคนตาลูป องุ่น มะม่วง
อโวคาโด มะละกอ สับปะรด เป็นต้น
วิตามินซียังมีมากในผักค่ะ อาทิเช่น มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง
บร็อคโคลี ผักโขม พริกหวาน
คะน้า พืชตระกูลถั่วฝัก และผักใบเขียวอื่น ๆค่ะ
ผักผลไม้ที่มีสีสัน พืชเหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ค่ะ ทำให้ร่างกายต้านทานโรคภัยได้ดีขึ้น
ค่ะ
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
ค่ะ เพื่อป้องกันสภาวะร่างกายขาดน้ำ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน
ค่ะ เลือกเครื่องดื่มอย่างอื่นแทน อาทิเช่น น้ำส้มหรือน้ำผลไม้ที่เพิ่งคั้นใหม่
ค่ะ หรือชาสมุนไพรไร้กาเฟอีน อาทิเช่น ชาผลกุหลาบที่มีวิตามินซีสูง
ค่ะ
เลือกรับประทานโปรตีนดี อาทิเช่น โปรตีนจากถั่วและปลา
ค่ะ โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกที่มีกรดไขมันโอเมก้า – 3 สูง
ค่ะ จะวยต้านการอักเสบในร่างกาย
ค่ะ
อาการไอและเจ็บคอมักเกิดขึ้นคู่กับหวัด
ค่ะ เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสทำให้ทางเดินหายใจส่วนบนเกิดการระคายเคือง
ค่ะ และร่างกายจะพยายามขับเชื้อโรคออกไปผ่านเสมหะหรือน้ำมูก
ค่ะ หลายคนเมื่อมีอาการนี้มักทนไม่ได้จนต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ
ค่ะ ซึ่งเป็นการใช้ยาแบบผิดๆ เพราะหวัดเกิดจากเชื้อไวรัส แต่ยาปฏิชีวนะใช้เพื่อฆ่าแบคทีเรีย
ค่ะ ถ้าไม่อยากใช้ยาก็ลองวิธีธรรมชาติบำบัดเหล่านี้ดู อาจช่วยได้บ้าง
ค่ะ
น้ำผึ้งผสมมะนาว
ค่ะ เหยาะพริกไทยดำลงไปนิดหนึ่งช่วยละลายเสมหะ
ค่ะ
หัวหอมใหญ่ 1 หัว หั่นเป็นแว่น ๆ เทน้ำผึ้งลงไปพอปริ่ม ๆ ปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืน
ค่ะ กรองเอาหัวหอมออก จะได้น้ำผึ้งผสมกับน้ำจากหัวหอมที่เจือจางลงแล้ว
ค่ะ จิบทุก 3 ชั่วโมงช่วยแก้ไอได้
ค่ะ
กลั้วคอด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ น้ำ 1 แก้ว เกลือ 1 ช้อนชา น้ำเกลือช่วยฆ่าเชื้อในลำคอและลดอาการเจ็บคอได้
ค่ะ
ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบที่คอ
ค่ะ หรือเกลือผสมน้ำอุ่นให้พอเปียกหมาดๆ ห่อด้วยผ้าแล้วพันประคบรอบคอ
ค่ะ
จิบชาสมุนไพรก็ได้ อาทิเช่น คาโมมายล์หรือเปปเปอร์มินต์ หรือซดซุปไก่ร้อนๆ
ค่ะ
หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด เค็ม และเปรี้ยวจัด
ค่ะ เพราะยิ่งทำให้ระคายคอมากขึ้น งดสูบบุหรี่เพราะควันบุหรี่ทำให้อาการเจ็บคอแย่ลง
ค่ะ
เพื่อป้องกันตัวเองและป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไวรัสไปยังคนรอบข้าง สิ่งที่ต้องทำคือ
ล้างมือบ่อยๆ
ค่ะ ด้วยสบู่และน้ำ หากไม่มีสองสิ่งนี้ พกเจลแอลกอฮอล์ไว้ติดตัวเพื่อล้างมือ
ค่ะ
เวลาไอปิดปากจมูกด้วยผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู
ค่ะ
ถ้าไอมีผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู หันหน้าไปทางอื่นที่ไม่มีผู้คน
ค่ะ และใช้ต้นแขนส่วนบนปิดปากและจมูกแทน
ค่ะ
อย่าใช้มือสัมผัสตา จมูก และปาก
ค่ะ
ทำความสะอาดคีย์บอร์ดและโทรศัพท์บ่อย ๆ
ค่ะ เพราะเชื้อไวรัสมีชีวิตอยู่ได้นานหลายชั่วโมง
ค่ะ
หลีกเลี่ยงการอยู่ทางกลางฝูงชนในช่วงที่ฤดูหวัดและไข้หวัดใหญ่ระบาด
ค่ะ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ค่ะ แม้จะติดหวัดแต่ก็จะทำให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย
ค่ะ
พุทธสุภาษิตว่าไว้ การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เป็นเรื่องที่จริงที่สุด
ค่ะ ควรดูแลสุขภาพให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม
ค่ะ เลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
ค่ะ และออกกำลังกายเป็นประจำ
จะได้แคล้วคลาดจากหวัดกันนะค่ะ
credit หนังสือ THE FIRST WEALTH IS HEALTH กินดีอยู่ดี
ผู้เขียน วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์ ผู้ให้สาระ และ ความรู้ที่น่าสนใจ