วัยรุ่น วัยเรียน และ วิธีกำจัดความเครียด

วัยรุ่น วัยเรียน และ วิธีกำจัดความเครียด

วัยรุ่น วัยเรียน และ วิธีกำจัดความเครียด

ให้ตายเถอะวัยรุ่น! = ใจร้อนซะไม่ว่าจะยุคไหน
 
         หลายคนยกเรื่องความใจร้อนให้เป็นนิยามของวัยรุ่น แต่มัก  จะลืมไปว่า นอกจากความใจร้อนแล้ว ยังมีความเครียดอีกหนึ่ง ที่ใช่  ว่าจะมีแต่ในผู้ใหญ่ยิ่งสมัยนี้ด้วยแล้วเผลอๆอาจมีไม่แพ้กันซะด้วยซ้ำและด้วยเพราะอายุที่ยังน้อย แถมประสบการณ์และทักษะในการ จัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามายังไม่ดีพอ ยิ่งถ้าไม่ได้รับการดูแล เอาใจใส่ให้ดี อาจจะยิ่งทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ตามมาได้มาก และ อาจจะรุนแรงกว่าที่ผู้ใหญ่เป็นเสียด้วยซ้ำ
วัยรุ่นส่วนใหญ่จะมีความเครียด เมื่อมีอยู่ในสถานการณ์ที่ อันตราย หรือได้รับความลำบาก ได้รับความเจ็บปวด และไม่สามารถ จัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ ซึ่งสาเหตุที่อาจทำให้เกิดความเครียด ในวัยรุ่นก็ได้แก่
  • ความคาดหวัง ความตั้งเป้าทางด้านการเรียนทั้งจากตัวเองและครอบครัว
  • ความคิดในแง่ลบเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตัวเอง
  • การเปลี่ยนแปลงทางสรีระ
  • ปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน
  • อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยหรือเพื่อนบ้านไม่ดี
  • ปัญหาจากในครอบครัว พ่อแม่หย่าร้าง
  • การเจ็บป่วยเรื้อรัง
  • คนที่รักหรือคนในครอบครัวเสียชีวิต
  • มีการย้ายหรือเปลี่ยนโรงเรียน
  • ปัญหาการเงินในครอบครัว
  • มีกิจกรรมมากเกินไปหรือมีความคาดหวังสูงเกินไป
 
         ถ้าวัยรุ่นสะสมความเครียดไว้มาก อาจนำไป สู่พฤติกรรมต่างๆ ได้ เช่น ความก้าวร้าว การแยกตัวออกจากสังคม ความหงุดหงิดโมโหง่าย เกิดโรคทาง ร่างกาย หรืออาจจะนำไปสู่การใช้ยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์
         ธรรมชาติของคนเรา เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้น จะมี การตอบสนองของร่างกายและจิตใจ ออกมาเป็น “fight, flight, or freeze” ซึ่งจะตอบสนองโดยมีการเต้นของหัวใจและอัตราการ หายใจเร็วขึ้น เลือดจะถูกสูบฉีดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมากขึ้น จะมีอาการ มือเท้าชาและเย็น และมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ อาการพวกนี้จะ หยุดลง เมื่อเรารู้สึกว่าปลอดภัยหรือปัญหาเริ่มคลี่คลาย ร่างกาย ก็จะเริ่มผ่อนคลายการหายใจ การเต้นของหัวใจจะช้าลง ถ้าเรา สามารถฝึกการผ่อนคลายร่างกายได้ ไม่ว่าจะวิธีใด ก็จะทำให้ สามารถจัดการกับการเครียดได้ดีขึ้น
 

พ่อแม่จะต้องช่วยเหลือวัยรุ่นอย่างไร
  • ติดตามและเฝ้าดูพฤติกรรมทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ ความคิด อารมณ์ อย่างใกล้ชิด
  • รับฟังด้วยความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ ไม่สร้างความกดดันหรือความคาดหวังมากเกินไป
  • ฝึกที่จะจัดการกับความเครียดและให้คำแนะนำในการ จัดการกับความเครียดได้
  • ส่งเสริมให้มีกิจกรรมด้านสังคม เช่น การช่วยเหลือสังคม หรือการเล่นกีฬาแทนที่จะให้เรียนอย่างเดียว
                                   
เทคนิคในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และวิธีคิดเพื่อลดความเครียด
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ และกินอาหารให้ตรงเวลา
  • หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  • ห้ามใช้ยาเสพติด รวมทั้งบุหรี่และแอลกอฮอล์
  • เรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลายร่างกาย ด้วยการฝึกการหายใจหรือเฝ้าดูลมหายใจ
  • ฝึกฝนทักษะการควบคุมอารมณ์
  • หลีกเลี่ยงสถานการณ์หรือปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความเครียด
  • คิดแต่แง่บวก มองแต่แง่ดี เช่น เคยคิดว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง เลย ก็ต้องคิดเสียใหม่ ถ้าเราทุ่มเทบวกตั้งใจมากขึ้น เราก็จะดีขึ้นได้ แน่ ๆ
  • ฝึกการจัดการสิ่งต่างๆ ให้เหมาะสม รู้จักสิ่งใดควรทำก่อน ควรทำหลัง
  • ให้รางวัลกับตัวเองในสิ่งที่ตัวเองทำได้ค่อยๆ สร้างเป้าหมาย สั้นๆ ที่เห็นผลได้ชัดเจน เพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายที่ใหญ่กว่าต่อไป
  • รู้จักตัวเอง รู้ขีดจำกัดของตัวเอง และไม่ตั้งความหวังสูงจนเกินไป
  • ฝึกที่จะพักจากสถานการณ์ที่ทำให้เครียด อาจจะผ่อนคลาย ด้วยการฟังเพลง คุยกับเพื่อน วาดภาพ หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง
  • เข้าหาหรืออยู่กับเพื่อน ที่สามารถพร้อมจะให้กำลังใจและ ช่วยแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้
 
         ลองดูลองใช้เทคนิคเหล่านี้ ในการจัดการกับความเครียด ถ้าเริ่มเห็นว่ามีความเครียดที่เกินกว่าจะจัดการได้ด้วยตัวเอง ก็อย่ากลัวและอย่าอายที่จะปรึกษากับ ผู้ใหญ่ หรือครูอาจารย์ แต่ถ้าไม่รู้จะปรึกษาใคร มาคุยกับหมอหมี ก็ได้นะครับและอย่าลืมว่า เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอันดับแรก สิ่งต่างๆ ที่ซึมซับไป เริ่มต้นจากที่บ้านทั้งสิ้น ดังนั้น หากสร้าง พื้นฐานของครอบครัวด้วยความรักความเข้าใจกันได้ดีแล้ว เด็ก ๆ และ วัยรุ่นที่อยู่ในครอบครัวนั้น ก็จะเรียนรู้และทำตาม หากต้องการให้ เด็กๆ ลูกๆ เรา มีสุขภาพจิตที่ดีแล้ว เราต้องเริ่มต้นในครอบครัว ของเราก่อน
 

COPYRIGHT©2024 SIAMPILL ALL RIGHTS RESERVED.