ยังไม่มีรายการสินค้าในตระกร้า!
แมกนีเซียม KAL Magnesium Glycinate 400, 180 tablets
แมกนีเซียม ยี่ห้อไหนดี เป็น อันดับที่ 4 ของอเมริกา KAL Magnesium Glycinate 400, 180 tablets
แมกนีเซียมคืออะไร
แมกนีเซียม จัดเป็นสารอาหารประเภทเกลือแร่ และ เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีนต่างๆมากมาย ในร่างกาย เป็นเกลือแร่ที่ คนเรามักจะขาดได้ง่ายรองมาจาก แคลเซียมเลยทีเดียวค่ะ ถ้าเปรียบเทียบแมกนีเซียม ก็เปรียบได้กับคนงานที่ทำงานตลอดเวลา ไม่พัก ไม่เหนื่อย เพื่อสังเคราะห์โปรตีนให้กับร่างกาย และนอกจากนั้น แมกนีเซียมก็เป็นโคเอนไซม์ชนิดหนึ่ง โดยจะทำงานร่วมกับ แคลเซียม ที่มีผลต่อการทำงานในระบบต่างๆ
มาดูหน้าที่และประโยชน์ของแมกนีเซียมกันว่ามีอะไรบ้าง
1.ช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับสมองได้ โดยเฉพาะ โรคซึมเศร้า ความเครียด และไมเกรน
2. บรรเทาอาการปวดหน้าอก ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
3. มีส่วนช่วย ในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยเฉพาะการต้านทานความหนาว เนื่องจากในที่อากาศเย็น ความต้องการแมกนีเซียมในร่างกายจะสูงขึ้น
4. เป็นสิ่งจำเป็นของการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน
5. มีส่วนช่วยในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
6. มีส่วนช่วยป้องกันโรคทางหลอดเลือดหัวใจ โดยการไปลดความดันเลือดลง ป้องกันการเกาะของโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง ส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
7. ป้องกันการจับตัวของแคลเซียม ที่อยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ไต
8.มีบทบาทในการดึงเอาแคลเซียมออกจากกระดูกของ parathyroid hormone
9.ลดการปวดประจำเดือนโดย แมกนีเซียมจะมีผลในการคลายกล้ามเนื้อมดลูก
โดยปกติ คนส่วนใหญ่จะได้รับ แมกนีเซียม ไม่เพียงพอจากอาหารที่รับประทานเข้าไป เนื่องจากอาหารส่วนใหญ่จะมีแร่ธาตุนี้อยู่น้อย รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ และโรคบางชนิดเช่น เบาหวาน ก็ส่งผลให้เกิดการขาดแร่ธาตุ แมกนีเซียม
ถ้าหากรับประทานแมกนีเซียมไม่เพียงพอจะเป็นอย่างไร
ผู้ที่ขาดแมกนีเซียม จะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายลดต่ำลง กล้ามเนื้อและระบบการย่อยจะทำงานผิดปกติไป ระบบประสาทจะถูกทำลาย และยังมีผลทำให้ประสาทรับรู้อาการเจ็บปวดจะได้ไวขึ้น กระดูกไม่แข็งแรง ร่างกายจะสร้างโปรตีนทดแทนไม่ได้ตามที่ควรจะเป็รน ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมพลังงานไว้ได้ การสร้างฮอร์โมนเพศผิดปกติ เลือดแข็งตัวช้า
การรับประทานแมกนีเซียม
ปริมาณแมกนีเซียมในแต่ละวัน อยู่ที่ 300 มก. แต่ในคนส่วนใหญ่ จะรับประทาน แคลเซียมเสริม และเป็นที่รู้กันว่า แมกนีเซียมเปรียบเสมือน บัดดี้ ที่จะต้องทำงานไปด้วยกัน ดังนั้น อัตราระหว่าง แคลเซียม ต่อ แมกนีเซียม 2 ต่อ 1 หรืออย่าให้แมกนีเซียมน้อยกว่า 3 ต่อ 1 เช่นถ้าเรา บริโภค แคลเซียม 600 มก. เราก็ควรรับประทาน แมกนีเซียม 300 มก. แต่อย่าให้น้อยกว่า 200 มก.
แมกนีเซียม จัดเป็นสารอาหารประเภทเกลือแร่ และ เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีนต่างๆมากมาย ในร่างกาย เป็นเกลือแร่ที่ คนเรามักจะขาดได้ง่ายรองมาจาก แคลเซียมเลยทีเดียวค่ะ ถ้าเปรียบเทียบแมกนีเซียม ก็เปรียบได้กับคนงานที่ทำงานตลอดเวลา ไม่พัก ไม่เหนื่อย เพื่อสังเคราะห์โปรตีนให้กับร่างกาย และนอกจากนั้น แมกนีเซียมก็เป็นโคเอนไซม์ชนิดหนึ่ง โดยจะทำงานร่วมกับ แคลเซียม ที่มีผลต่อการทำงานในระบบต่างๆ
มาดูหน้าที่และประโยชน์ของแมกนีเซียมกันว่ามีอะไรบ้าง
1.ช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับสมองได้ โดยเฉพาะ โรคซึมเศร้า ความเครียด และไมเกรน
2. บรรเทาอาการปวดหน้าอก ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
3. มีส่วนช่วย ในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยเฉพาะการต้านทานความหนาว เนื่องจากในที่อากาศเย็น ความต้องการแมกนีเซียมในร่างกายจะสูงขึ้น
4. เป็นสิ่งจำเป็นของการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน
5. มีส่วนช่วยในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
6. มีส่วนช่วยป้องกันโรคทางหลอดเลือดหัวใจ โดยการไปลดความดันเลือดลง ป้องกันการเกาะของโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง ส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
7. ป้องกันการจับตัวของแคลเซียม ที่อยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ไต
8.มีบทบาทในการดึงเอาแคลเซียมออกจากกระดูกของ parathyroid hormone
9.ลดการปวดประจำเดือนโดย แมกนีเซียมจะมีผลในการคลายกล้ามเนื้อมดลูก
โดยปกติ คนส่วนใหญ่จะได้รับ แมกนีเซียม ไม่เพียงพอจากอาหารที่รับประทานเข้าไป เนื่องจากอาหารส่วนใหญ่จะมีแร่ธาตุนี้อยู่น้อย รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ และโรคบางชนิดเช่น เบาหวาน ก็ส่งผลให้เกิดการขาดแร่ธาตุ แมกนีเซียม
ถ้าหากรับประทานแมกนีเซียมไม่เพียงพอจะเป็นอย่างไร
ผู้ที่ขาดแมกนีเซียม จะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายลดต่ำลง กล้ามเนื้อและระบบการย่อยจะทำงานผิดปกติไป ระบบประสาทจะถูกทำลาย และยังมีผลทำให้ประสาทรับรู้อาการเจ็บปวดจะได้ไวขึ้น กระดูกไม่แข็งแรง ร่างกายจะสร้างโปรตีนทดแทนไม่ได้ตามที่ควรจะเป็รน ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมพลังงานไว้ได้ การสร้างฮอร์โมนเพศผิดปกติ เลือดแข็งตัวช้า
การรับประทานแมกนีเซียม
ปริมาณแมกนีเซียมในแต่ละวัน อยู่ที่ 300 มก. แต่ในคนส่วนใหญ่ จะรับประทาน แคลเซียมเสริม และเป็นที่รู้กันว่า แมกนีเซียมเปรียบเสมือน บัดดี้ ที่จะต้องทำงานไปด้วยกัน ดังนั้น อัตราระหว่าง แคลเซียม ต่อ แมกนีเซียม 2 ต่อ 1 หรืออย่าให้แมกนีเซียมน้อยกว่า 3 ต่อ 1 เช่นถ้าเรา บริโภค แคลเซียม 600 มก. เราก็ควรรับประทาน แมกนีเซียม 300 มก. แต่อย่าให้น้อยกว่า 200 มก.
