โรคหัวใจ สาเหตุ และวิธีรักษา
โรคหัวใจ สาเหตุ และวิธีรักษา
เพราะหัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญยิ่งของรำงกายมีภาระหน้ำที่คอยสูบฉีดเลือดให้ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงตามเซลล์ต่างๆทั่วร่างกายซึ่งภาระหน้ำที่ที่หัวใจรับดูแลอยู่นั้นถือว่าหนักเอาการทำให้โอกาสที่จะเกิดความผิดปกติขึ้นมาก็มีแน่ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่ใส่ใจประเภทช่างมันฉันไม่แคร์ซึ่งถือว่ำเป็นการทำร่ายกายแบบไม่รู้ ตัวเพราะคนเรามักไม่ค่อยรู้ตัวกันว่าทำอะไรกับตัวเองบ้าง
ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับหัวใจนั้นค่อนข้างมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ/แตกหัวใจขาดเลือดหัวใจโดลินห้วใจรั่วและกล้ามเนี้อหัวใจเสื่อมแน่นอนที่สุดความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหัวใจคือโรคร้ายๆที่อาจพรากลมหายใจของคุณไปอย่างถาวร อยากจะบอกว่า หัมาหลียวแลหัวใจกันบ้างเพี่อการมีชีวิตที่ยืนยาว และถัดจากนี้จะขอหยิบยกเรื่องโรคที่เกี่ยวกับหัวใจมาให้ด้รู้จักกันสักสองโรคผืออาจทำให้คุณได้รู้ตักอนเพราะไม่แน่หากวันหนึ่งวันใดจำโรคหัวใจมาถามหา จะได้รับมือได้ทันท่วงทีว่าแลว...ก็ตามนี้เลยครับ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
จากสถิติบอกว่าโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นสาเหตุการตายในอันดับดันๆและมีแนวโน้มว่าจะพบมากขึ้นที่สำคัญ..อายุของคนที่ริมเป็นโรคหัวใจก็ลดน้อยลงกว่าเดิมนั่นอาจเป็นพราะพฤติกรรมของคนทำงานในยุคนี้แย่ลง เช่นต้องนั่งอยู่หน้คอมพิวเตอร์ทั้วันไมีเวลาไปออกกำลังกายและกินอาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นประจำ
โรคหลอดเลือดห้วใจเกิดจากมี plaque เกาะอยู่ด้านในข้างเส้แลือด plaque เหล่านี้เกิดจากไขมันคอเลสเตอรอลและสารอื่นๆทำให้เกิดภาวะที่เล้แลือดแข็งตัวกว่าปกติและ plaque ก็เป็นตัวการทำให้เสันเลือดแดงดีบส่งผลให้ริมาณแลือดที่ไหลไปเลี้ยงกลัมเนี้อหัวใจน้อยลง และอาจเกิดเป็นลิ่มเลือดไปเกาะหรืออุดตันที่เส้นเลือด ทำให้หัวใจขาดเลือดและเกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก (an gina) หรือหัวใจวาย (heart attack)
Angina เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของโรคเส้นเลือดหัวใจลักษณะอาการคือเจ็บหน้ำอกเป็นอาการที่รู้สึกแน่นๆหน้ำอกหรือเจ็บบีบๆอยู่ในอก แต่ตำแหน่งจะไม่ชัดเจนหลายคนอาจมีอาการเจ็บหน้าอกแปลับๆเวลาเอี้ยวตัวขยับตัวหรือหายใจลึกๆซึ่งลักษณะแบบนี้เป็นการเจ็บหน้าอกจากการอักเสบของกระดูกอ่อนที่หน้ำอกและลักษณะอีกอยางของการเจ็บหน้าอกจากหัวใจคือการปวดร้าวไปตามหัวไหล่ต้นแขนคางและหลังอาการจะแย่ลงเมื่อมีการออกแรงแต่จะเบาลงเมื่อได้พักนอกจากนี้อาการอีกแบบที่พบบ่อยคือการหายใจไม่ทันหอบเหนื่อยแต่จะเกิดขึ้นเมื่อมีภาวะหัวใจลัมเหลวร่วมดัวย
ปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิด
1 ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสงโดยที่มีระดับ LDL choles- terol "และ HDLcholestero ต่ำกว่าปกติ
2 ความดันโลหิตสูงโดยใช้เกณท์ 140/90 mmHg ขึ้นไป
3 การสูบบุหรีเป็นการทำลายและทำให้เส้นเลือดแข็งกว่าปกติอีกทั้งยังทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและทำให้ไขมันชนิดดีลดลงดัวย
4 โรคเบาหวาน
5 น้ำหนักคัเกินมาตรฐาน
6 มีภาวะ Metabolic syndrome เป็นกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน
7 ไม่ออกกำลังกาย
8 อายุที่มากขึ้นจะยิ่งมีความเสี่ยงมากโดยเฉลี่ยผู้ชายอายุมากกว่า 45 ปีส่วนผู้หญิงอายุมากกว่า 55 ปี
9 ในครอบครัมีประวัติเป็นโรคห้ใจตั้งแต่อายุยังน้อยปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ
10 ระดับโปรดีนที่รียกว่ำ C-reactive protein (CRP) สูงกว่าปกติจะทำให้มีความเลี่ยงในการเกิดโรคห้ใจมากขึ้นพราะโปรตีนตัวนี้จะบ่งบอกว่ามีการอักเสบหรือมีการบาดเจ็บของเส้นเลือด
11 Fibrinogen เป็นโปรตีนที่จำเป็นในการทำให้เกิดลิ่มเลือดแต่ถ้ามีมากเกินไปก็ส่งผลให้มีการเกาะตัวของเกร็ดเลือดและไปอุดตันเส้นเลือดที่สมองหรือหัวใจไตั
12 Lipoprotein (a) เป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อไขมัน LDL ไปเกาะกบโปรดีนจึงทำให้กลไกการป้องกันลิ่มเลือดผิดปกติ
13 Homocysteine เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อใชัสร้างและทดแทนนี้อเยื่อที่ตายถ้ารำงกายมีสารตัวนี้ในระดับสูงจะทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคหัวใจไดั
14 Sleop อpnoa เป็นภาวะความผิดปกติของการหายใจในขณะหลับอาจหายใจสั้นดี้นหรือหยุดทายใจไปชั่วขณะ
15 ความเครียด
16 แอลกอฮอล์
การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ
การรักษาผู้ป่วยโรคหลอดหลอดเลือดหัวใจจำเป็นต้องอาศัยการปรับปลี่ยนพฤติกรมและการกินยาอย่างสม่ำเสมอหรือในบางรยอาจต้องรับการรักษาตัวยการทำหัตถการ(การใช้ทักษะทางมือการเจาะเลือด)สำหรับเป้าหมายหลักของการรักษาก็เพื่อช่วยลดอาการต่างๆที่เป็นช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด.ช่วยทำให้สันเลือดขยายมากขึ้นหรือบางรายอาจต้องทำ bypass และเป็นการป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเส้นเลือดหัวใจ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (festyle changes)
การมีสขภาพที่ดีถือเป็นการป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว...ก็อยากจะแนะนำข้อปฏิบัติในการปรับปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อคุณจะได้ยืนอยู่ห่างไกลจากโรคหัวใจ
ควรมีการควบคุมอาหารตามหลักกะเพี่อลดปริมาณคอเลสเตอรอล
1 กินอาหารที่ช่วยลดความดันและลดคอเลสเตอรอลโดยการไม่กินอาหารเด็มหรืออาหารที่มีโซเดียมสูงและอาหารมันต่างๆ ให้มีไขมันอิ่มตัวในอาหาร <7% และไขมันทั้หมดน้อยกว่า 25-35% ของแคลอรีทั้งหมดควบคุมระดับคอเลสเตอรอลให้ต่ำกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวันหันมากินอาหารที่มีไฟเบอร์ให้มากขึ้นพวกข้าวกล้องผักผลไม้และถัวต่างๆหรืออาจกินปลาให้มากขึ้นอาจ 2-3 ต่อสัปดาห์เพื่อเป็นการเพิ่ม omega-3 และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ความดันโลหิตและไขมันไตรกลีเซอร์ไลด์สูงขึ้น
2 ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมถ้น้ำหนักเกินมาตรฐานควรลดให้ไดั 7-10% ภายใน 3 เดือนและควรควบคุมดัชนีมวลกายให้ด่ำกว่า 23
3 ควรเพิ่มการออกกำลังกายอาจปรึกษาแพทย์ว่าสามารถออกได้มากน้อยแค่ไหนสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจควรริมการออกกำลังกายระดับปานกลางเช่นเดินเร็วเต้นรำปั้นจักรยานทำสวนประมาณ 30 นาทีหรืออย่างน้อย 5 วันต่อปดาห์
4 งดสูบบุหรีเหตุพราะบุหรีเป็นตัวการทำลายเส้นเลือดและยังทำให้ไขมันชนิดดี HDL ต่ำกว่าปกติได้
5 เรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดซึ่งผลการวิจัยพบว่าความเครียดเป็นตัว trigger ของการเกิดหัวใจวายได้โดยเฉพาะอย่างยิงวลาโกรธทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยกำจัดความเครียดได้ก็คือการออกกำลังกายหรือนังสมาธิแต่ก็มีหลายคนที่กำจัดความเครียดแบบทำร้ายขภาพด้วย การดื่มเหล้า สูบบุหรี่
6 ควรนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอและเลิกลุยงานหนัก
การรักษาด้วยยา (Medicines)
เป้าหมายของการรักษาด้วยยาก็เพื่อช่วยให้ตัวใจทำงานน้อยลงและลดอาการที่เกิดจากเส้นเลือดหัวใจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายหรือกล้ามเนี้อหัวใจตายเฉียบพลันช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดงช่วยป้องกันการเกิดลิมเลือดและช่วยป้องกันหรือเลื่อนโอกาสในการต้องทำหัตถการเช่นการสวนาวใจหรือผ่าตัด (bypass)
สำหรับยารักษานั้นจะมีหลากหลายชนิดซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะดูจากโรคประจำตัวอื่นๆประกอบด้วยนอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นยาลดความดันโลหิดยาลดไขมันและยาป้องกันลิ่มเลือดถึงแม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆก็ตามผู้ป่วยก็จำเป็นต้องไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอหรือในบางรายอาจต้องรับการรักษาด้วยการทำหัดถการเช่น
1 Angioplasty เป็นการสอดท่อเข้าในสันเลือดโดยมีบอลลูนหรือเครื่องมืออยู่ที่ส่วนปลายของสายเพื่อใช้ในการถ่างขยายเส้นเลือดที่ตีบให้กว้างขึ้นเป็นการช่วยลดการดีบตันและเพิ่มเลือดให้ส่งไปยังกล้ามเนี้อหัวใจได้ดีขึ้นหรือบางครั้งอาจมีการไส่stentซึ่งเป็นท่อขน้ำดเล็กเข้าไปแทนที่
2 CABG เป็นการผ่าตัดน้ำเส้นเลือดจากส่วนอื่นของร่างกายมาตัดต่อใช้แทนที่เส้นเลือดที่ดีบตันแต่ในปัจจุบันการผ่าตัดวิธีนี้จะเสำคัญอลดน้อยลงเพราะการใช้วิธี balloon หรือ stent ได้ผลค่อนข้างดีกว่าและมีการตรวจพบที่เร็วขึ้น
แม้ว่าล่าสุดทางการแพทย์จะมีวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่เราก็ควรตระหนักว่าการป้องกันไว้ก่อนถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเใช่รืองยากเลยเพียงแค่หมันดูแลสุขภาพควบคุมน้ำหนักควบคุมอาหารเพื่อเป็นการป้องกันคอเลสเตอรอลและโรคมาหวาน อีกทั้งหมันออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและไม่สูบบุหรี่
หัวใจโต
หัวใจโตภาวะหรืออาการที่มีเหตุมาจากโรคต่างๆ คุณสามารถเห็นได้ง่าย เมื่อมีการเอ็กซเรย์หรือบางคนอาจเกิดขึ้นชั่วคราว เช่นขณะตั้งครรภ์ และอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆเช่น โรคเส้นเลือดหัวใจขาดเลือด และโรคลิ้นห้วใจ
ลองถ้าหัวใจของคุณมีภาวะหัวใจโตอาการบางอย่างก็จะปรกฏออกมาให้เห็นเช่นหายใจลำบากหายใจสั่น และเร็ว จังหวะการเด้นของห้วใจผิดปกติ มีอาการมืนงงเวียนหัว ตัวบวม ขาบวม และไอ แต่ถ้าเป็นภาวะห้วใจขาดเลือดแบบเฉียบพลันก็จะมีอาการ เจ็บหน้าอกหายใจลำบากเหนื่อยหอบและเป็นลมหมดสติที่สำคัญอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาจากการมีหัวใจโตและที่อันตรายที่สุดคือภาวะที่หัวใจห้องขายด้านล่างโดซึ่งเป็นสาพดูที่ทำให้หัวใจวายได้ทำให้หัวใจไม่สามารถปั๊มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่ำงกายได้อย่างเพียงพอ
สาเหตุที่ทำให้หัวใจโต
1 ความดันโลหิตสูง
2 ลิ้นหัวใจรัว
3 กล้ามเนือหัวใจผิดปกติ (cardiomyopathy)
4 โรคหัวใจผิดปกดิแต่ก่าเนิด
5 มีภาวะความดันเส้นเลือดในปอดลูง (pulmonary hyper tension)
6 โลหิตจาง
7 โรคไทรอยด์
8 ภาวะธาตุเหล็กในร่างกายสูงผิดปกติ(hemochromatosis)
9 โรคที่มีโปรตีนสูงผิดปกติในห้วใจ(amyddosis)
หากสงสัยว่าจะเข้าข่ายเป็นโรคหัวใจก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียดเพราะความรนแรงของโรคดือถึงชีวิตหรือเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงแต่อย่างน้อยๆก็ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง แค่ได้ยินก็รู้สึก กลัวตายซะแล้ว โรคนี้มีต้นสายปลายเหตุมาจากอะไรเรามารู้จักกันดีกว่า
โรคหลอดเลือดสมองจะเกิดขึ้นเมื่อเชลล์สมองตายเนื่องจากการขาดเลือดและสาเหตุที่ทำให้เซลล์ขาดเลือดนั้นก็มีด้วยกันสองสาเหตุหลักๆ คือส้นเลือดแดงตีบหรืออุดตัน และเส้นเลือดแดงแตกเมื่อถึงวลา...ไม่ว่าจะดีบหรือแตกก็ถือว่ารุนแรงพอกันจริงมั้ยครับ
ในกรณีที่เส้นเลือดแดงตีบจะมีด้วยกัน 3 ลักษณะ
1 Ischemic stroke เป็นภาวะเสันเลือดแดงดีบคือเสันเลือดตีบแคบกว่าปกติหรือมีความแข็งกว่าปกดิโดยจะเกิดขึ้นกับร่ำงกายทีมีปัญหาอยู่ก่อนแล้วเช่นมีไขมันในเลือดสูงโรคเบาหวานเป็นโรคความดันโลหิตสูงและติดยูบบุหรีจากสถิติพบว่ามากกว่า 90% ของคนที่เป็นโรคเส้นเลือดสมองจะจัดอยู่ในกลุ่มนี้
2 Thrombotic stroke เป็นภาวะการแข็งตัวของเส้นเลือดแดงหรือที่เรียกว่า atherosclerosis โดยปกติแลัวสมองจะมีเส้นเลือดหลักไปเลี่ยงสี่เส้น คือ ด้านหน้าสองเส้น และด้านหลังสองเส้น ถ้าเส้นเลือดพวกนี้ดีบแคบกว่าปกติจากการที่เสันลือดแข็งตัวมีเซลล์ที่ตายอยู่ในกระแสเลือดหรือมีคอเลสเตอรอลสูงก็จะไปอุดคันเส้นเลือดดำเหล่านี้จึงส่งผลให้มีภาวะขาดเลือดและเซลล์สมองก็จะถูกทำลาย
3 Embdcstroke เป็นภาวะที่มีลิ่มเลือดจากหัวใจหรืออวัยวะอื่นไหลมาอุดตันที่สมองซึ่งลิ่มเลือดพวกนี้โดยมากจะพบในคนทีเป็นหรือมีจังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ
สำหรับกรณีทีเส้นเลือดในสมองแตก (Hemorrhagic stroke) เมื่อเส้นเลือดแตกเนี้อสมองก็จะขาดเลือดไปเลี้ยงและเลือดที่ไหลออกมาก็จะทำให้สมองบวมยิ่งขึ้นส่วนสาเหตุที่พบกันบ่อยที่สุดก็มาจากความดันโลหิตสูงมีภาวะเส้นเลือดในสมองโป่งพองและเส้นเลือดแดงในสมองผิดปกติ
ความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
1 การสูบบุหรี่
2 ความดันโลหิตสง
3 โรคเบาหวาน
4 มีไขมันในเลือดสูง
5 ผู้ที่มีอายุมากกว่า 55 ปี
6 โรคหัวใจในกลุ่มที่มีจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
7 ในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเส้นเลือดสมอง
8 น้ำหนักเกินมาตรฐาน
9 ไม่ออกกำลังกาย
10 กินยาฮอโมนเพศโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอสโตรเจน
อาการที่บ่งบอกว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
ลักษณะอาการที่ปรากฏจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนี้อสมองที่ขาดเลือดและขึ้นอยู่กับปริมาณของเซลล์สมองที่ถูกทำลายแต่ถ้าเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยอาจจะไม่มีอาการอะไรฉายขัดให้เห็นเรียก silent strokes และสำหรับอาการที่เห็นเด่นชัดว่าเป็นอาการหลักของเล้แลือดสมองก็มีด้วยกัน 5 อย่างคือ
1 มีอาการชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้าแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งอย่างเฉียบพลัน
2 ความรัสึกตัวเปลี่ยนแปลงไปเช่นพูดไม่ซัดหรือไม่สามารถเข้าใจได้อย่างเฉียบพลัน
3 ตาข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างมองเห็นผิดปกติอย่างเฉียบพลัน
4 เดินและทรงตัวผิดปกติหรือมีอาการมึนงงเวียนศีรษะอยางเฉียบพลันมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุอย่างเฉียบพลัน
การรักษา
การรักษาสำหรับคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองที่ดีบและแตกจะมีแนวทางในการรักษาที่แตกต่างกันเส้นเลือดที่คืบเป้าหมายในการรักษาก็เพื่อทำให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลียงเนี้อสมองได้ตามปกติเวนสันเลือดที่แดกเป้าหมายในการรักษาก็คือการหยุดเลือดลดการกดเบียดเนี้อสมองจากเลือดที่ไหลออกมาผ่าตัดซ่อมแซมเสันเลือดและระบายเลือดส่วนที่ไหลออกมากดเบียดลมองเพีอช่วยลดความดันในสมอง
การป้องกัน
เชื่อแน่ว่า...คงไม่มีใครอยากเป็นโรคหลอดเลือดสมองกันหรอกนะเช่นนั้นแล้วก็ตัองพีงระวังและป้องกันไม่ให้เกิดจะดีกว่า
1 ควบคมระดับความดันโลหิตให้ดีควบคุมระดับไขมันในเลือด
2 งดสูบบุหรี่
3 ควบคุมโรคเบาหวาน
4 ควบคมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม
5 กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น
6 ออกกำลังกายเป็นประจำถอยห่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
credit Dr. Carebear
COPYRIGHT©2024 SIAMPILL ALL RIGHTS RESERVED.