การ กินไข่ทุกๆวัน นั้น ดีหรืไม่ ความจริงเกี่ยวกับ ไข่
ยังเป็นที่กังขากันพอสมควรเกี่ยวกับการบริโภคไข่ กันว่า ตกลงมันดีหรือไม่ดียังไง ก่อนหน้านี้ เราถูกปลูกฝังว่าไข่มีคอเลสเตอรอลสูงค่ะ ไม่ดีต่อสุขภาพ คนที่กลัวไขมันอุดตันในเส้นเลือดจึงมักเลือกรับประทานแต่ไข่ขาว
ค่ะ หลีกเลี่ยงไข่แดง
ค่ะ จนช่วงหลัง ๆ มีข้อมูลออกมาแย้งว่าไข่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ค่ะ แต่กลับเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพแถมเป็นแหล่งโปรตีนราคาย่อมเยา
ค่ะ ก็ทำเอาสับสนไปตามๆ กันว่าจะเชื่อข้อมูลไหนดีกันแน่ วันนี้ไม่ได้จะมาต่อต้านหรือเชียร์ให้รับประทานไข่
ค่ะ แต่จะเอาข้อมูลบางส่วนมานำเสนอเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ค่ะ
ก่อนอื่นมาว่ากันถึงประโยชน์ของไข่กันก่อน ความจริงแล้วไข่จัดเป็น Super Food อย่างหนึ่ง
ค่ะ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงเพราะมีกรดอะมิโนทั้ง 9 ที่จำเป็นต่อร่างกายครบครัน
ค่ะ ทั้งยังอุดมด้วยสารอาหารต่าง ๆ อาทิ แคลเซียม โอเมก้า – 3 วิตามินเอ วิตามินบี (โดยเฉพาะบี 6 และบี 12)
ค่ะ ในส่วนของไข่แดงจะมีวิตามินดีสูงซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ค่ะ และยังมีสารโคลีนที่ช่วยบำรุงสมอง
ค่ะ รวมถึงลูทีนที่บำรุงสายตาอีกด้วย ยังไม่นับรวมแร่ธาตุต่าง ๆ
ค่ะ อาทิเช่น ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม และฟอสฟอรัส ซึ่งล้วนจำเป็นต่อร่างกาย
ค่ะ
ฟังดูก็น่าจะดีแต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ไขยังมีสารอาหารอย่างอื่นที่ผู้คนไม่ค่อยปรารถนา
ค่ะ นั่นคื คอเลสเตอรอลในไข่แดง ไข่ 1 ฟองจะมีคอเลสเตอรอลประมาณ 190 มิลลิกรัม มีไขมันอิ่มตัวราว 1.6 กรัม นอกจานั้น ในไข่ขาวยังมีโซเดียมสูง เฉลี่ย 400 มิลลิกรัมต่อฟอง
ค่ะ ไข่เป็นอาหารที่ให้แคลอรีสูง
ค่ะ ในผู้ใหญ่ทั่วไป เราต้องการแคลอรีประมาณ 2,000-2,500 แคลอรี ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนซึ่งไขแค่ 1 ฟองให้พลังงาน 70-90 แคลอรี
ในเมื่อไข่มีทั้งด้านบวกและด้านลบเช่นนี้แล้วนั้น การเลือกบริโภคไข่จึงต้องเป็นไปด้วยความชาญฉลาด
ค่ะ สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว พวก เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ มีข้อแนะนำควรรับประทานไข่ 4 ฟองหรือน้อยกว่านั้นต่อสัปดาห์
ค่ะ ส่วนเด็กๆ ร่างกายต้องการโปรตีนเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเจริญเติบโต
ค่ะ จะสามารถรับประทานได้วันละฟอง
ค่ะ อย่างไรก็ตาม พึงสังวรว่าอาหารอื่นๆ ที่เรารับประทานก็มีส่วนประกอบของไข่เช่นกัน
ค่ะ อาทิเช่น แป้งพิซซ่า ไอศกรีม
เส้นพาสต้า คุกกี้ เค้ก ขนมอบทั้งหลายไปจนถึงขนมไทยหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด สังขยา หม้อแกง
ฝอยทอง และอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ ดังนั้น อย่าคิดว่าการรับประทานไข่ 1 ฟองก็จบที่ไข่ฟองเดียวเท่านั้น ไข่ยังแอบแฝงอยู่ตามอาหารอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เราจึงต้องประเมินเองว่าสมควรจะรับประทานมากน้อยแค่ไหนค่ะ
สำหรับคนที่ชอบรับประทานไข่แต่กลัวคอเลสเตอรอล ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ส่วนใหญ่มักเลือกรับประทานไข่ขาวแล้วเขี่ยไข่แดงทิ้ง อันนี้ช่วยได้เพราะในไข่ขาวไม่มีคอเลสเตอรอล
ค่ะ และมีแคลอรีไม่ถึง 20 แคลอรี
ค่ะ ว่ากันว่ารับประทานไข่ขาว 2 ฟอง ก็จะได้โปรตีนเทียบเท่าไข่ทั้งใบ 1 ฟอง
ค่ะ สำหรับผู้ป่วยบางโรค เช่นโรคไต และความดันสูง ไข่ขาวอาจจะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี
ค่ะ แต่อย่าลืมว่าในไข่ขาวมีโซเดียมค่อนข้างสูง
ค่ะ เพื่อความปลอดภัย จึงควรปรึกษาแพทย์หรือโภชนากรถึงปริมาณที่เหมาะสมในการบริโภค
ค่ะ
ตามซูเปอร์มารืเก็ตปัจจุบันจะเห็นไข่เสริมธาตุอาหาร อาทิเช่น โอเมก้า-3 วางจำหน่าย
ค่ะ ถึงจะราคาแพงกว่าไข่ทั่วไปแต่เชื่อว่ากลุ่มคนรักสุขภาพยินดีซื้อหามารับประทาน
ค่ะ ไข่เสริมโอเมก้า-3 เกิดจากแม่ไก่ที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารที่มีโอเมก้า – 3 สูง
ค่ะ อาทิเช่น ถั่วเหลืองหรือเมล็ดฝ้าย (Flax Seed) และกรดไขมันโอเมก้า – 3 นี่เองที่มีคุณสมบัติป้องกันโรคหัวใจ
ค่ะ สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น กรดไขมันชนิดนี้ยังจำเป็นต่อการเติบโตของทารกในครรภ์อีกด้วย
ค่ะ
ไข่ดิบล่ะรับประทานแล้วมีประโยชน์ไหม หลายๆ คนชอบรับประทานไข่ดิบกัน
ไข่ลวก ไข่ดาวไม่สุกด้วยเชื่อว่าบำรุงร่างกายดีกว่าไข่สุก ความจริงแล้วนั้น การรับประทานไข่ดิบต้องระมัดระวังเนื่องเพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลาที่ทำให้เจ็บป่วยได้
ค่ะ โดยเชื้อดังกล่าวอาจปนเปื้อนจากเปลือกไข่
ค่ะ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยการทำให้ไข่สุกจะดีกว่า
ค่ะ นอกจากนั้น ไข่ดิบยังย่อยยากกว่า
ค่ะ และข้อเสียอีกอย่างคือในไข่ดิบมีโปรตีนที่ชื่อว่าอะวีดินที่ทำให้ร่างกายดูดซึมไบโอติน (วิตามินบีชนิดหนึ่ง) ได้น้อยลง
ค่ะ แต่ถ้าทำให้ไข่ขาวสุก โปรตีนที่ว่าจะเปลี่ยนสภาพทำให้ไบโอติถูกนำไปใช้ได้ดีขึ้น
ค่ะ
บทสรุปก็คือ เหรียญมีสองด้านฉันใด อาหารจำพวกไข่ก็เช่นกัน
ค่ะ ไข่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็จริง
ค่ะ แต่ก็ควรรับประทานอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว
ค่ะ และต้องจำกัดไขมันและคอเลสเตอรอล
ค่ะ บุคคลทั่วไปแม้ไม่มีโรคก็อย่าชะล่าใจควรรับประทานไข่แต่พอประมาณ อาจจะสัปดาห์ละ 3-4 ฟอง
ค่ะ ถ้าจะให้ดีรับประทานไข่ควบคู่กับผักและอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
ค่ะ และมื้อไหนมีเมนูไข่ มื้อนั้นควรลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง
ค่ะ และอาหารทะเลลง หลีกเลี่ยงการรับประทานไข่ดิบที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อชาลโมเนลลา
ค่ะ เลือกรับประทานไข่ต้มหรือไข่ตุ๋นที่ให้แคลอรีต่ำกว่าไข่ที่ปรุงด้วยน้ำมัน
ค่ะ และท้ายสุดพึงระลึกเสมอว่าอะไรที่มากเกินไปก็อาจจะมีโทษได้
ค่ะ เดินทางสายกลางดีที่สุด
ค่ะ นั่นคือ รับประทานอาหารให้สมดุลและครบ 5 หมู่
ค่ะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและทำจิตใจให้แจ่มใสไร้ความเครียดเท่านี้ชีวีก็จะเป็นสุขจ้า