ยังไม่มีรายการสินค้าในตระกร้า!
อาหารเสริมขมิ้นชันยี่ห้อ Turmeric Curcumin 120 Capsules by Nature's Nutrition ราคา
อาหารเสริมขมิ้นชันยี่ห้อไหนดีเป็น อันดับที่ 4 ของอเมริกา อาหารเสริมขมิ้นชันยี่ห้อ Turmeric Curcumin 120 Capsules by Nature's Nutrition
ขมิ้นชัน เป็นพืชชนิดหนึ่งที่เราจะได้เห็นว่าประโยชน์ของมันมีมากมาย ขมิ้นชันมีที่ใช้ทั้งในแพทย์แผนจีน และ ไทยอายุรเวทมานานมากกว่า 4000 ปี ในการรักษาอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โรคกระเพาะ แผลในกระเพาะอาหาร บำรุงตับ ปวดข้อ ข้อเสื่อม ผิวพรรณ และ รักษาบาดแผลต่างๆ
ขมิ้นชัน มีประโยชน์อะไร ขมิ้นชันนั้นมีส่วนประกอบสำคัญที่มีสรรพคุณทางยาคือสารสีเหลืองส้มชื่อ curcumin ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้มีผลที่ดีต่อร่างกายในด้านต่างๆ
มาทำความรู้จักเคอร์คูมิน curcumin ในขมินชันกันว่ามันคืออะไร
เคอร์คูมิน (curcumin) พบในพืชวงศ์ขิง เช่น ขมิ้นชัน ว่านนางคำ เป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอลมีสีเหลือง ขมิ้นชัน (Curcuma longa Linn.) มีสารเคอร์คิวมินอยด์เป็นสารสีเหลืองสกัดจากเหง้าขมิ้นชัน (Curcuma longa Linn.) ประกอบด้วย สารหลัก 3 ตัว คือ เคอร์คูมิน (curcumin) ดีเมท็อกซี่เคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin) และ บิสดีเมท็อกซี่เคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin) เคอร์คิวมินอย์ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี จึงนำมาใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านยา อาหาร และเครื่องสำอาง ได้มีการวิจัยทั้งในคนและสัตว์ทดลองพบว่า เคอร์คูมินอยด์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์บำรุงรักษาตับ ช่วยป้องกันมะเร็ง ฤทธิ์ในการลดระดับโคเลสเตอรอล และ มีฤทธิ์ในการป้องกันสมองเสื่อม
เคอร์คูมินอยด์ (curcuminoids) จากขมิ้นชัน ซึ่งเป็นสารเคมีประเภทโพลีฟีนอล( polyphenolic phytochemical) ออกฤทธิ์ทางด้านชีวเคมีหลายประการ เช่น มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงดีต่อตับ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาและป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อและอาหารไม่ย่อย ในรายงานการวิจัยได้ศึกษา กลุ่มผู้ทดลองที่มีอาการโรคกระเพราะอาหารรับประทานขมิ้นชันแคปซูลมีอาการที่ดีขึ้นและเมื่อศึกษาการทดลองในหนูขาว พบว่าขมิ้นชันมีฤทธิ์คล้ายกล้ามเนื้อเรียบของกระเพาะอาหารในหนูขาว ขมิ้นชันจึงน่าจะมีผลบรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบในผู้ป่วยที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารสารเคอร์คูมินอยด์โดยธรรมชาติจะไม่ละลายน้ำแต่ในผลิตภัณฑ์นี้ได้ผ่านการปรับปรุงด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้สามารถละลายน้ำได้ จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของสารเคอร์คูมินอยด์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขมิ้น อาหารเสริม curcumin โภชนาการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จาก การศึกษางานวิจัยที่มีคุณภาพหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สารสกัดขมิ้น curcumin มีประโยชน์สำคัญต่อร่างกายและสมองของคุณ รวมถึง ยังพบงานวิจัย สำคัญ curcumin มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อต่อภาวะซึมเศร้า
ขมิ้นชัน & โรคต่างๆ
1 ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดจุกแน่นท้อง โรคกระเพาะ ขมิ้นชันช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี จึงช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดก๊าซในท้อง และช่วยลดอาการจุกแน่นท้องได้
2 เข่าเสื่อม บางงานวิจัยได้พบว่า กินขมิ้นชันสามารถช่วยลดอาการปวดเข่าในโรคเข่าเสื่อมได้เทียบเท่ายาแก้ปวดลดอักเสบ
3 มะเร็ง ในงานวิจัยบางชิ้นพบว่าอาจมีส่วนช่วยป้องกัน หรือ รักษามะเร็งบางชนิดได้ในหลอดทดลอง หรือสัตว์ทดลอง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ มะเร็งควรรักษาด้วยวิธีมาตรฐานโดยแพทย์เป็นอันดับแรก หากต้องการกินขมิ้นชันควบคู่ควรปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาก่อนนะคะ
4 โรคติดเชื้อไวรัส หรือ แบคทีเรีย มีงานวิจัยพบว่า ขมิ้นชันสามารถฆ่าเชื้อไวรัส หรือ แบคทีเรียในหลอดอาหารได้
5 โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัลไซเมอร์ หรือ พาร์กินสัน เนื่องจากขมิ้นชัน มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด จึงอาจช่วยป้องกัน หรือ ชะลอโรคเหล่านี้ได้ แต่ยังต้องมีวิจัยศึกษาเพิ่มเติมค่ะ
ขมิ้นชัน มีประโยชน์อะไร ขมิ้นชันนั้นมีส่วนประกอบสำคัญที่มีสรรพคุณทางยาคือสารสีเหลืองส้มชื่อ curcumin ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้มีผลที่ดีต่อร่างกายในด้านต่างๆ
มาทำความรู้จักเคอร์คูมิน curcumin ในขมินชันกันว่ามันคืออะไร
เคอร์คูมิน (curcumin) พบในพืชวงศ์ขิง เช่น ขมิ้นชัน ว่านนางคำ เป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอลมีสีเหลือง ขมิ้นชัน (Curcuma longa Linn.) มีสารเคอร์คิวมินอยด์เป็นสารสีเหลืองสกัดจากเหง้าขมิ้นชัน (Curcuma longa Linn.) ประกอบด้วย สารหลัก 3 ตัว คือ เคอร์คูมิน (curcumin) ดีเมท็อกซี่เคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin) และ บิสดีเมท็อกซี่เคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin) เคอร์คิวมินอย์ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี จึงนำมาใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านยา อาหาร และเครื่องสำอาง ได้มีการวิจัยทั้งในคนและสัตว์ทดลองพบว่า เคอร์คูมินอยด์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์บำรุงรักษาตับ ช่วยป้องกันมะเร็ง ฤทธิ์ในการลดระดับโคเลสเตอรอล และ มีฤทธิ์ในการป้องกันสมองเสื่อม
เคอร์คูมินอยด์ (curcuminoids) จากขมิ้นชัน ซึ่งเป็นสารเคมีประเภทโพลีฟีนอล( polyphenolic phytochemical) ออกฤทธิ์ทางด้านชีวเคมีหลายประการ เช่น มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงดีต่อตับ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาและป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการกรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อและอาหารไม่ย่อย ในรายงานการวิจัยได้ศึกษา กลุ่มผู้ทดลองที่มีอาการโรคกระเพราะอาหารรับประทานขมิ้นชันแคปซูลมีอาการที่ดีขึ้นและเมื่อศึกษาการทดลองในหนูขาว พบว่าขมิ้นชันมีฤทธิ์คล้ายกล้ามเนื้อเรียบของกระเพาะอาหารในหนูขาว ขมิ้นชันจึงน่าจะมีผลบรรเทาอาการปวดท้องเนื่องจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบในผู้ป่วยที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารสารเคอร์คูมินอยด์โดยธรรมชาติจะไม่ละลายน้ำแต่ในผลิตภัณฑ์นี้ได้ผ่านการปรับปรุงด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้สามารถละลายน้ำได้ จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของสารเคอร์คูมินอยด์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขมิ้น อาหารเสริม curcumin โภชนาการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จาก การศึกษางานวิจัยที่มีคุณภาพหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สารสกัดขมิ้น curcumin มีประโยชน์สำคัญต่อร่างกายและสมองของคุณ รวมถึง ยังพบงานวิจัย สำคัญ curcumin มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อต่อภาวะซึมเศร้า
ขมิ้นชัน & โรคต่างๆ
1 ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดจุกแน่นท้อง โรคกระเพาะ ขมิ้นชันช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี จึงช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดก๊าซในท้อง และช่วยลดอาการจุกแน่นท้องได้
2 เข่าเสื่อม บางงานวิจัยได้พบว่า กินขมิ้นชันสามารถช่วยลดอาการปวดเข่าในโรคเข่าเสื่อมได้เทียบเท่ายาแก้ปวดลดอักเสบ
3 มะเร็ง ในงานวิจัยบางชิ้นพบว่าอาจมีส่วนช่วยป้องกัน หรือ รักษามะเร็งบางชนิดได้ในหลอดทดลอง หรือสัตว์ทดลอง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ มะเร็งควรรักษาด้วยวิธีมาตรฐานโดยแพทย์เป็นอันดับแรก หากต้องการกินขมิ้นชันควบคู่ควรปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาก่อนนะคะ
4 โรคติดเชื้อไวรัส หรือ แบคทีเรีย มีงานวิจัยพบว่า ขมิ้นชันสามารถฆ่าเชื้อไวรัส หรือ แบคทีเรียในหลอดอาหารได้
5 โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัลไซเมอร์ หรือ พาร์กินสัน เนื่องจากขมิ้นชัน มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด จึงอาจช่วยป้องกัน หรือ ชะลอโรคเหล่านี้ได้ แต่ยังต้องมีวิจัยศึกษาเพิ่มเติมค่ะ
